อดีตจำเลยถูกซ้อมบังคับรับสารภาพยา ฟ้องแพ่งเรียก 30 ล้าน สตช.

อดีตจำเลยถูกซ้อมบังคับรับสารภาพยา ฟ้องแพ่งเรียก 30 ล้าน สตช.

"หนุ่ม อดีตพนง.บริษัทไฟฟ้า" ฟ้องแพ่งกลับ สตช. หลัง 3 ศาลพิพากษายืนยกฟ้อง พ่ออดีตจำเลยพ้นคดี เผยลูกถูกยัดข้อหายา-ซ้อมบังคับสารภาพ ศาลนัดพิจารณา ก.พ.ปีหน้า

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.61 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง อายุ 31 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี อดีตจำเลยที่ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องครอบครองยาบ้า มอบอำนาจให้ นายธนากร เจริญรุ่งเรือง บิดาและทนายความ มายื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร.) เป็นจำเลย ในความผิดเรื่องละเมิด พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5

ทั้งนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ พ.2585/2561 และนัดชี้สองสถาน (นัดพร้อมคู่ความ) ในวันที่ 25 ก.พ.2562 เวลา 09.00 น.

โดย นายธนากร กล่าวว่า นายราชศักดิ์ บุตรชาย ถูกตำรวจสังกัดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งหมด 8 นาย ร่วมกันจับกุมและแจ้งข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย ขณะไปติดต่อซื้อไก่ชนจากหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งตำรวจค้นบ้านพักของหญิงดังกล่าว พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ประมาณ 700 เม็ด เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.57 ตลอดเวลา บุตรชายยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ถูกซ้อมบังคับให้รับสารภาพและบังคับเอาทรัพย์สินเป็นแหวนทองคำ , สร้อยพระเครื่อง , หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก รุ่น 1 มูลค่าหลักแสนบาท

นายธนากร กล่าวอีกว่า ตนและลูกชายต่อสู้คดีมาตลอดโดยมีพยานหลักฐานหลายอย่างชัดเจนว่าลูกตนไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กระทั่งวันที่ 26 มี.ค.58 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานครอบครองยาบ้า 10 เม็ดโทษจำคุกให้รอลงอาญา และยกฟ้องข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ต่อมาศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.59 ให้ยกฟ้อง เช่นเดียวกับศาลฎีกาที่พิพากษาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 61 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

ขณะที่บุตรชายต้องถูกคุมขังในเรือนจำ นานกว่า 1 ปีโดยไม่มีความผิด ถูกซ้อมทรมาน เสียชื่อเสียง ต้องถูกให้ออกจากงาน พนักงานการไฟฟ้าของบริษัทเอกชน ขาดประโยชน์จากรายได้ และต้องเสียประโยชน์จากสวนมะนาวกว่า 20 ไร่และไก่ชนนับร้อยตัว จึงเรียกค่าเสียหายเป็นค่าสินไหม ชดเชย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท