เล็งปรับระบบสอบภาค ก. เป็นระบบเดียวครอบคลุมทั้งหน่วยงานราชการ

เล็งปรับระบบสอบภาค ก. เป็นระบบเดียวครอบคลุมทั้งหน่วยงานราชการ

เล็งปรับระบบสอบภาค ก.เป็นระบบเดียว ครอบคลุมทั้งหน่วยงานราชการทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น คาดบังคับใช้ปี 63

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล (กขร.) ว่าได้เห็นชอบตามที่คณะกรรมการปฏิรูประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดินที่เสนอให้มีการปรับเปลี่ยนระบบการสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปสำหรับบุคคลที่จะเข้ารับราชการ (สอบภาค ก.) รวมทั้งการสอบสำหรับการเข้ารับราชการในหน่วยงานราชการอื่นๆ เช่น ตำรจ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีผู้สอบรวมกันหลายแสนคนต่อปี โดยต่อไปจะมีการปรับให้เป็นมาตรฐานเดียวสำหรับการสอบของเจ้าหน้าที่รัฐทุกประเภท และจะกำหนดให้มีการสอบเพียงครั้งเดียว หากสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจะสามารถเก็บคะแนนภาค ก.ที่เป็นข้อสอบกลางไว้ใช้ได้ตลอดชีวิต ซึ่งจะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการสอบของระบบราชการ รวมทั้งงบประมาณที่จะต้องเสียไปในการอุดหนุนการสอบของผู้ที่มาเข้าสอบแต่ละปีได้ด้วย

“จำนวนผู้เข้าสอบ ภาค ก.เพื่อคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการในขั้นต้นแต่ละปีมีจำนวนสูงมาก ขณะที่อัตราการรับจริงมีน้อย ช่น ปีก่อนมีผู้เข้าสอบประมาณ 5 แสนคน แต่มีผู้ที่สอบได้เพียง 6% ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้เข้าสอบทั้งหมด แต่หากมีระบบกลางสามารถเก็บผลสอบไว้ได้แล้วให้หน่วยราชการมาดูผลสอบในระบบนี้แล้วคัดเลือกผู้ที่มีคะแนนตามเกณฑ์ได้ในเบื้องต้นก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสอบและการจัดสอบต่อปีได้จำนวนมาก”

ทั้งนี้คณะกรรมการปฏิรูประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดินกำหนดว่าระบบการสอบวัดความรู้ภาค ก.รูปแบบใหม่ที่ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แล้วจะมีทั้งสิ้น 3 วิชาหลัก ได้แก่ วิชาทักษะการคิดวิเคราะห์ กำหนดเกณฑ์ในการสอบผ่าน 60% วิชาภาษาอังกฤษ กำหนดเกณฑ์ที่จะผ่านการทดสอบ 50% สำหรับผู้สอบที่จบปริญญาตรี และ 60% สำหรับผู้ที่จบการศึกษาปริญญาโท และวิชาสุดท้ายคือวิชาการเป็นข้าราชการที่ดีซึ่งกำหนดเกณฑ์ในการผ่านวิชานี้ที่ 60%

ทั้งนี้ คาดว่าข้อเสนอนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ภายใน 2 เดือน และเริ่มใช้ได้ในการสอบภาค ก.ในปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นไป