“ดอยธิเบศร์” เข้าพบผบช.น. เจ้าตัวแจงไม่ใช่เรื่องแย่งมรดกแต่เป็นสมบัติของชาติต้องรักษาไว้ เผยภาพหายตั้งแต่ปี 60 มีการซื้อขายหลักฐานชัดเจน ระบุภาพหายทั้งหมด 113 รูป มีเบาะแสว่าอยู่กับใครบ้าง
เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 19 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายดอยธิเบศร์ ดัชนี พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. กรณีที่คนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดลักภาพวาดของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ออกไปกว่า 113 ภาพ จากบ้านเลขที่ 170/109 หมู่บ้านเกษราคลาสสิคโฮม ซอย 11 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.57 – 30 มี.ค.60 วันเวลาต่อเนื่องกัน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางชัน
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เรื่องการแบ่ง 60:40 เป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น แต่ตอนนี้ขอยังไม่พูดขอให้รอครั้งเดียวเลย ส่วนเรื่องพินัยกรรมนั้นต้องบอกว่าคดีนี้ไม่มีเรื่องพินัยกรรม คือเขาอ้างว่ามีการตกลงกันในศาลเมื่อปี 2557 ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เพราะที่เขาทำมาไม่ใช่เรื่องของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องของพินัยกรรม แต่เป็นเรื่องที่เราต่อสู้เรื่องของภาพวาดที่เป็นสมบัติของชาติในอนาคต ไม่ใช่เรื่องของการมาสู้เพื่อแบ่งทรัพย์สินหรือแบ่งมรดก แต่เป็นเรื่องการนำภาพไปขายในตลาดมืดจำนวน 113 ภาพ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนเอาไปและใครรับภาพเหล่านั้นไปบ้าง ทั้งนี้ศาลชั้นต้น ศาลอุทรณ์ และศาลฎีการะบุออกมาแล้วว่าผู้จัดการมรดกคือ นายดอยธิเบศร์ และศาลไม่ได้รับรองว่าเขาเป็นภรรยา
ด้านนายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า ผมเจอน.ส.ทิพย์ชาติ วรรณกุล หรือป้าอ๊อด ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2557 ตนขอพูด 2 ประเด็น คือคดีเรื่องอาญากับแพ่ง ตนอยากให้สนใจคดีอาญาที่กำลังทำอยู่ตอนนี้มากกว่า ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งทรัพย์หรือแย่งมรดกกัน แต่เป็นเรื่องของสมบัติที่ต้องสงวนและรักษาไว้ซึ่งเป็นสมบัติของประเทศชาติในอนาคต ส่วนเรื่องคดีทางแพ่งที่ป้าอ๊อดเป็นผู้ร้องในการเป็นผู้จัดการมรดก ในวันที่ 19 ต.ค. หลังจากที่พ่อผมเสียไป 9 วัน ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ทราบ มาทราบอีกครั้งหลังจากนั้นอีก 2 เดือนแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการตกลงเจรจาอะไรกันเลยก็ได้ฟ้องผม ซึ่งผมก็เป็นผู้คัดค้าน ส่วนป้าอ๊อดเป็นผู้ร้องก็สู้กันในชั้นศาล ขณะนั้น ได้ต่อสู้กัน 4-5 ปี คดีจบ ศาลตัดสินให้ผมเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว แต่ในระหว่างนั้นก่อนที่จะจบฎีกา ป้าอ๊อดได้ไปฟ้องของแบ่งมรดกครึ่งหนึ่ง ทางทนายของฝ่ายตนก็ได้ไปเจรจาว่าการที่จะแบ่งครึ่งหนึ่ง ทำไมคุณจะต้องมาเริ่มต้นที่จุดเดิม เพราะตอนนั้นมีการฟ้องร้องเรื่องเป็นผู้จัดการมรดกก็ได้มีการเจรจาไปแล้วถึง 2 รอบ แต่ป้าไม่ตกลง ป้าบอกว่าป้าจะสู้ ผมจึงบอกไปว่าผมจำเป็น ผมก็ต้องสู้ เพราะเป็นสิทธิ์ของผม สู้จนสุดท้ายผมเป็นผู้จัดการมรดก
นายดอยธิเบศร์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันมีเรื่องของอาญาเข้ามาก่อนที่เรื่องจะไปถึงขั้นตอนของศาลฎีกา โดยผมทราบว่ามีภาพหายออกจากบ้าน โดยตอนแรกทราบว่าภาพหายไป 3 ภาพ ก่อนจะเพิ่มเป็น 7,10,11,12 ซึ่งตอนนี้ป้าอ๊อดเป็นผู้ดูแล ผมมั่นใจว่าภาพที่หายไปส่วนใหญ่เป็นภาพนกอาจจะบินออกไปเอง ทั้งนี้ตั้งแต่มีข้อพิพาทขึ้นตนไม่อยากไปทำให้ป้าอ๊อดไม่สบายใจ ในขณะเดียวกันผมได้ทำงานเกือบ 2 ปี หลังจากทราบเรื่อง ผมจะเป็นคนเช็คภาพเมื่อมีคนส่งภาพมาให้ดูว่าเป็นภาพจริงไหม บางภาพที่เป็นภาพปลอมก็จะส่งหนังสือไปแจ้งผู้ครอบครองว่าภาพนั้นเป็นภาพปลอม คุณจะต้องไปเคลียร์จัดการเอาเงินคืน โดยเรายืนยันว่าเราเป็นสถาบันจากพิพิธภัณฑ์บ้านดำ แต่ขณะเดียวกันก็มีภาพจริงโผล่ออกมาอยู่เป็นประจำ ผมจึงทำการตรวจเช็ค
นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า ตนเคยประกาศออกไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่าผมไม่ขายรูปจะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ หลังจากนั้นถ้าเกิดมีภาพหายออกไปหรือมีการซื้อขายหลังจากพ่อผมเสีย สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นภาพที่ไม่ถูกต้องหากมีที่มาที่ไป ทั้งนี้ก็มีคนส่งภาพมาให้ตนเช็คอยู่เรื่อยๆ ตนก็ดูแรกๆ ก็ไปเจอ 2-3 ภาพก่อนที่ตรงกับดาต้าเบตเรา ซึ่งได้ถ่ายภาพไว้เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 แต่มีภาพไปโผล่ปี 2560 ตนจึงมีข้อสงสัยว่ามีภาพออกมาได้อย่างไร และไม่ได้ออกมาเฉยๆ มีการซื้อและขาย ผมจึงพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมได้ประมาณ 10 กว่าภาพ จึงไปแจ้งความเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. จากนั้นผ่านมาครบ 1 ปี พอดี ป้าอ๊อดได้ไปฟ้องผมเรื่องขอแบ่ง ผู้ไกล่เกลี่ยจึงบอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกันจะแบ่งแนวทางอย่างไร อีกฝั่งบอกว่าแบ่ง 50:50 หรือ 60:40 ระหว่างนั้นทนายฝ่ายตนจึงบอกว่าให้ทำบัญชีทรัพย์ใหม่ จึงได้โอกาสตรงนี้นำทนายและทีมของเรา ทนายฝั่งเขา ตากล้องทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีตำรวจไปเป็นพยาน แล้วจุงเข้าไปถ่ายภาพใหม่ซึ่งจริงๆ แล้วภาพมีประมาณ 650 ภาพ ซึ่งวันนั้นถ่าย 1 ภาพมา 2 ครั้ง รวมมีภาพที่เก็บมากว่าพันภาพ ทำให้ทราบวันนั้นว่ามีภาพหายไป จำนวน 113 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพนก ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ตนได้รับมาก่อนหน้านี้กับภาพ 10 กว่าภาพที่หายไป
นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า จริงๆ เรื่องการแบ่งทรัพย์ยังไม่ถึงไหนเลย ยังไม่มีการตกลง ไม่มีการเคลียร์เป็นกิจลักษณะ ไม่มีการแบ่งเปอร์เซ็นว่าใครจะได้เท่าไหร่ เป็นเพียงแนวทางอีกฝ่ายว่าของ 60:40 ,50:50 แต่หลังจากที่ตนทราบว่าภาพถูกโจรกรรม ตนมีเจตนาที่จะไม่เจรจาแล้วให้ไปฟ้องในชั้นศาลเอาให้ไปต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งเป็นเรื่องของคดีแพ่ง
นายดอยธิเบศร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีอาญาที่ยังไม่คืบหน้า ตนจึงได้ติดต่อไปยังนายอัจฉริยะ ทางนายอัจฉริยะจึงพาตนมาที่บช.น. จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่คดีนี้ถูกรื้อขึ้นมาใหม่ โดยทางพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ตนสามารถเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวได้ แต่จริงๆ ผมไม่อยากเข้าไปมีปัญหา หรือเข้าไปวุ่นวาย เราก็อยู่ในส่วนของเรา เมื่อวาน 18 ก.ย. ที่ป้าอ๊อดแถลงว่าเรื่องภาพนี้ไม่ทราบไม่รู้ ยินดีให้พิสูจน์ แต่จริงๆ ผมทราบเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีพยานชีเออกมาให้เห็น ซึ่งในข่าวชาวบ้านระแวกนั้นเป็นคนพูดเองซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับผมหรือป้าเลย อย่างไรก็ตามผมไม่สามารถเข้าบ้านได้เนื่องจากป้าอ๊อดล็อคบ้านไว้ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปเก็บภาพในบ้านเมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 ซึ่งมีทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้ามาคอยดูแลอำนวยความสะดวก ก็ทำให้ได้ข้อมูลหลักฐานในส่วนนี้จึงได้ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ว่าภาพได้ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 จริง เพราะฉะนั้นภาพที่หลุดออกมาหลังจากนั้นเป็นภาพที่ผิดกฎหมายหมดเลย
เมื่อถามว่าภาพหายไปคิดว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า ผมคิดว่าภาพหายไป ผมไม่ปักใจ เพราะผมยึดหลักของนิติวิทยาศาสตร์ เพราะการทำคดี เราไม่พูดถึงเรื่องอารมณ์ เราพูดถึงความถูกต้อง เราพูดถึงหลักฐาน เมื่อถามต่อว่าสงสัยตัวป้าอ๊อดหรือไม่ นายดอยธิเบศร์ กล่าวอีกว่า จริงๆ อยากให้รอทางผู้ใหญ่เป็นคนแถลงดีกว่า ผมมองว่าเรื่องตนนี้ตนไม่ปักใจ และไม่ฟันธงว่าใครเอาไป แต่เรามีพยานหลักฐานว่าเอาไปแล้วไปอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง
"ผมมีเบาะแส 10 กว่าภาพ ว่าไปอยู่ในความครอบครองใคร อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ครอบครองภาพตนได้เตรียมการจัดการคนที่อยู่ในกระบวนการปลอมภาพ เนื่องจากมีภาพปลอมหลุดออกมาจำนวนมากแล้วนำมาขายในราคาแพง บางคนซื้อในราคาหลักล้านหลักแสน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นภาพปลอม ซึ่งหลังจากที่คุณพ่อเสียก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะต้องมีใบเซอร์ให้เรียบร้อย ส่วนคนที่ครอบครองภาพโดยถูกกฎหมาย ไม่ต้องกลัว ผมจะมีใบรับรองจากพิพิธภัณฑ์ให้ หากคนที่ไม่มั่นใจให้ส่งเบาะแสมาให้เราจะทำการตรวจสอบเช็คจากข้อมูลให้ ซึ่งจะต้องขอปรึกษากับผบช.น.ก่อนว่าจะสามารถเปิดเผยทั้ง 113 ภาพ ได้หรือไม่" นายดอยธิเบศร์ระบุ
ส่วนผลงานที่หายไปส่วนใหญ่เป็นภาพงานใช้ฝีแปรงในการวาดภาพ (brushwork) รูปนกเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นจะเป็นงานวาดภาพด้วยมือ หากมีใครต้องให้ช่วยตรวจสอบภาพก็ยินดีที่จะดำเนินการให้ตรวจสอบ