บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าที่ 32.77 บาทต่อดอลลาร์

บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าที่ 32.77 บาทต่อดอลลาร์

ช่วงต้นสัปดาห์ที่แนวโน้มแข็งค่า จับตาเงินเฟ้อไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น คาด ธปท. ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อ แต่ตลาดยังระวังท่าทีจากทรัมป์

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ32.77 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน

ทางด้านมุมมองค่าเงินบาท คาดว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าขึ้นได้ต่อในช่วงต้นสัปดาห์ แนะนำจับตาไปที่เงินเฟ้อของไทยเดือนสิงหาคมที่จะมีการรายงานในวันจันทร์ เชื่อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.51% เมื่อเทียบกับปีก่อนและจะเป็นการเร่งตัวของเงินเฟ้อสูงกว่า 1.0% ที่เป็นขอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายติดต่อกันเป็นเดือนที่ห้า ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ธปท.ยังสามารถส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อ

อย่างไรก็ตามช่วงท้ายสัปดาห์ยังต้องระมัดระวังท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์กับนโยบายการค้าที่อาจส่งผลให้ตลาดปิดรับความเสี่ยงได้เสมอ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังอยู่ในขาขึ้น นอกจากนี้ค่าเงินตลาดเกิดใหม่ที่อ่อนแอก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงนี้ ดอลลาร์จึงอาจแข็งค่าได้ไม่ยาก สำหรับกรอบค่าเงินวันนี้ 32.72-32.82 บาทต่อดอลลาร์ และกรอบค่าเงินประจำสัปดาห์ 32.44 – 32.95 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่เศรษฐกิจโลกจะเริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นในสัปดาห์นี้เนื่องจากมีทั้งการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในสหรัฐ (ISM Manufacturing และ Non-manufacturing PMI) พร้อมกับการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

วันอังคาร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐจะอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 58.1 จุด มองว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐจะชะลอตัวลงเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเร่งผลิตเพื่อหลบการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ผู้ประกอบการจึงอาจชะลอการผลิตลงในเดือนนี้ เพื่อประเมินผลกระทบหลังราคาสินค้าทุนจากฝั่งจีนมีราคาสูงขึ้น

วันพฤหัส ต้องติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตของสหรัฐต่อเนื่อง คาดว่าเดือนนี้ PMI จะปรับตัวกลับขึ้นมาที่ระดับ 57.0 จุด หลังจากที่เดือนก่อนหลุดลงไปที่ 55.7 จุดซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 11เดือน มองว่าตลาดทุนที่แข็งแกร่งจะเป็นตัวช่วยด้านความมั่นใจ แต่ถ้าธุรกิจยังชะลอตัวต่อ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าความเชื่อมั่นของตลาดการเงินเริ่มลดลงแล้ว

และช่วงคืนวันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (US Non-farm payrolls) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.91 แสนตำแหน่ง ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยรายสัปดาห์จะปรับตัวขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน และการว่างงานจะอยู่ในระดับต่ำที่ 3.9% ภาพรวมตลาดแรงงานเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐและยังไม่มีท่าทีที่จะชะลอตัวลง