ทย.เล็งดึงจีนพัฒนาสนามบินแม่สอด รองรับผู้โดยสาร 1.8ล้านคนต่อปี

ทย.เล็งดึงจีนพัฒนาสนามบินแม่สอด รองรับผู้โดยสาร 1.8ล้านคนต่อปี

กรมท่าอากาศยาน เตรียมโรดโชว์จีน ดึงนักท่องเที่ยวแดนมังกรบินตรงสนามบินแม่สอด รับดีมานด์ผู้โดยสารเพิ่มต่อเนื่อง เฉลี่ย 30% ต่อเที่ยวบิน เทอร์มินัลอินเตอร์เปิดให้บริการ ธ.ค.นี้ มั่นใจเพิ่มการรองรับผู้โดยสาร 1.8 ล้านคน

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานแม่สอด จ.ตาก โดยระบุว่า ทย.เล็งเห็นถึงสัญญาณการเติบโตของผู้โดยสารจีนที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 30% ต่อเที่ยวบิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจเดินทางมาเจรจาธุรกิจ และทำกิจการในพื้นที่เศรษฐกิจ ส่งผลให้ ทย.วางแผนเดินทางไปโรดโชว์ เมืองกว่างโจว (จีน) ก.ย.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของท่าอากาศยานแม่สอด พร้อมเจรจาธุรกิจร่วมกับสายการบินจีน ตั้งเป้าจะมีสายการบินตอบรับเข้ามาทำการบินเพิ่มขึ้น 3-4 สายการบิน

“ท่าอากาศยานแม่สอด มีจุดแข็งที่ตั้งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมต่อการเดินทางในเส้นทางการค้าระหว่างอินเดีย เมียนมา และไทยเป็นฮับในฝั่งภาคตะวันตก และจะเป็นประตูเชื่อมต่อการค้าไปยังฝั่งตะวันออกผ่านไทย ลาว เวียดนาม และจีน”

ทั้งนี้ ทย.ได้ลงทุนงบประมาณราว 1.5 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานแม่สอด เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2562 จากปัจจุบันมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารราว 4 แสนคนต่อปี ซึ่งแผนพัฒนาดังกล่าว แบ่งออกเป็น 1. งานก่อสร้างทางขับ ลานจอดอากาศยาน และเสริมผิวทางวิ่งเดิม ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 99.28% ของปริมาณงานทั้งหมด

2. งานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ พร้อมอาคารประกอบ โดยตัวอาคารมีพื้นที่ขนาด 12,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คนต่อชั่วโมง หรือ 1.8 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างทดสอบระบบ และ 3. งานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง เพื่อใช้รองรับอากาศยาน B737 ให้ขึ้น-ลง ได้ จากเดิมทางวิ่งมีขนาด 30 x 1,500 เมตร ให้เป็นขนาด 45 x 2,100 เมตร ปัจจุบันงานคืบหน้า 13.10% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563

ปัจจุบัน ทย.ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการประมูลสิทธิการเช่าอาคารที่ราชพัสดุ เพื่อหาผู้ประกอบการ ร้านค้าประเภทต่างๆ ที่จะให้บริการภายในอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ พร้อมจัดสรรพื้นที่สำหรับร้านค้าวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการมีรายได้แก่ชุมชนในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2561 จากนั้นจะทำการทดสอบระบบต่างๆ ภายในอาคาร และเปิดให้บริการผู้โดยสารภายในปี 2562