'ไพบูลย์' ชี้ 'คสช.' ไม่ควรปิดช่องทางโซเชียลฯ พรรคสื่อสารกับสมาชิก
"ไพบูลย์" ชี้ "คสช." ไม่ควรปิดช่องทางโซเชียลมีเดีย พรรคสื่อสารกับสมาชิก เหตุไม่ใช่การหาเสียง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดถึงกติกาของการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ล่าสุดห้ามให้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊กแฟนเพจ โฆษณาชวนเชื่อ โดยยอมรับกติกาดังกล่าวได้ในช่วงก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ประกาศวันเลือกตั้ง เพราะเข้าใจว่าคสช.ต้องการจัดระเบียบ เรื่องการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตาม คสช. ควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง สามารถสื่อสารไปยังสมาชิกพรรคได้ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงประกาศเชิญชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้ เพราะ การสื่อสารไปยังสมาชิกพรรค หรือเชิญชวนประชาชนให้สมัครฯ นั้นไม่ใช่การรณรงค์หาเสียง
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงการคลายล็อกทางการเมืองโดยใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ว่า โดยเชื่อว่าจะประกาศคำสั่งหรือกติกาที่คลายล็อกหลังการประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วนประเด็นที่เป็นทางออกของการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค (ไพรมารี่โหวต) ที่เบื้องต้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุจะใช้ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร แทน ไพรมารี่โหวตนั้น เชื่อว่า รายละเอียดมาตรา 44 ที่แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการขั้นตอนใดบ้าง เพราะหากเขียนว่าเว้นการใช้ไพรมารี่โหวตเท่านั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเขียนรายละเอียดและขั้นตอนบังคับไว้
"ผมเชื่อว่าเมื่อมาตรา 44 ออกมาไม่ให้มีไพรมารี่โหวต จะไม่กระทบกับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ที่ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครว่าต้องผ่านกระบวนการสรรหาผู้สมัคร เนื่องจากคำสั่งคสช. นั้นเป็นระดับที่เท่ากับกฎหมายลูก นอกจากนั้นการเว้นใช้ไพรมารี่โหวต จะไม่ทำลายเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางต่อการเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพราะการให้มีคณะกรรมการสรรหา ถือเป็นกระบวนการที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมระดับหนึ่ง" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า แม้คำสั่งตามมาตรา 44 ที่เตรียมประกาศจะเว้นการใช้ไพรมารี่โหวต แต่พรรคการเมืองใดที่มีความพร้อมยังสามารถปฏิบัติตามกฎหมายเดิมได้ เพราะไม่ใช่การยกเลิกไปโดยถาวร อย่างไรก็ตามกรณีที่มีบุคคลที่เห็นว่ามาตรา 44 แย้งหรือขัดกับรัฐธรรมนูญ สามารถใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเนื้อหาได้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะไม่ทำให้มีปัญหาต่อที่กระทบต่อการเลือกตั้ง ขณะที่ว่าที่พรรคประชาชนปฏิรูปยืนยันจะใช้ไพรมารี่โหวตในระบบเขตเลือกตั้งแน่นอน ขณะที่ระบบบัญชีรายชื่อต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหลังจากเห็นเนื้อหาคลายล็อกแล้ว.