หุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนลบ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า วานนี้ (30 ส.ค.) ดัชนี SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางอย่างต่อเนื่อง เคลื่อนไหวมาปิดตลาด 1,720.40 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 3.8 หมื่นล้านบาท โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มนิคมอย่าง WHA, AMATA และกลุ่มก่อสร้างอย่าง ITD, CK และหุ้นขนาดเล็ก-กลางบางตัวเริ่มกลับมามีแรงซื้ออีกครั้งอย่างเช่น VGI, MACO, TEAMG อย่างไรก็ตาม CPALL, PTT ยังคงเผชิญกับแรงขายต่อเนื่องเป็นผลให้ท้ายตลาดกดให้ SET พลิกกลับมาติดลบ 

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,884 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 3,513 สัญญา

ขณะที่ วันนี้ (31 ส.ค.) SET Index ขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นเหตุให้เรามองว่าตลาดจะยังแกว่งตัวในแดนลบอยู่ในอยู่ในกรอบแคบ 1,705-1,720 จุด  เพื่อรอดูความชัดเจนประเด็นรายละเอียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า ล่าสุด Trump แถลงพร้อมนำสหรัฐออกจาก WTO หากไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเพิ่มแรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดทุน

นอกจากนี้ ในวันนี้จะมีการปรับพอร์ต MSCI ตลาดเกิดใหม่ โดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Share จาก 2.5% เป็น 5.0% คิดเป็นทั้งหมด 236 บริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 0.75% ของ MSCI Emerging market Index เป็นผลให้ประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยถูกปรับน้ำหนักลง (ประเทศไทยถูกปรับลดลงประมาณ 0.2%) ซึ่งเราประเมินผลกระทบจำกัดเมื่อเทียบกับการปรับพอร์ตรอบเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน สะสมหุ้นพื้นฐานดีหากราคาปรับตัวลดลง โดยเน้นหุ้นที่เติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศ (Domestic Play)