แจงรธน.ไม่ห้ามสภาวิชาชีพ 'ก้าวก่าย' มหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.61 นายทัศไนย ไชยแขวง อุปนายกสภาทนายความ ในฐานะประธานที่ประชุมสมาพันธ์สภาวิชาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่มีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกล่าวว่า สภาวิชาชีพอาจจะยังไม่เข้าใจ และคงยังไม่ได้อ่านรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2561 ที่กำหนดไว้ในมาตรา 40 วรรคสอง ที่ห้ามสภาวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา นั้น ตนขอชี้แจงว่า ไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2561 ที่ห้ามสภาวิชาชีพเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา การจะตีความในเจตนารมณ์ของกฎหมายควรจะพิจารณาถึงบทบัญญัติอื่นประกอบเพื่อให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงและควรจะหาข้อยุติเสียก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน สภาวิชาชีพพร้อมที่จะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจหรือหาข้อยุติในความหมายและเจตนารมณ์ของมาตรา 40 ตามวิธีทางของกฎหมาย

นายทัศไนย กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่กล่าวว่า สภาวิชาชีพทำให้บัณฑิตไม่ได้คุณภาพเพราะต้องผลิตบัณฑิตตามหลักสูตรวิชาชีพกำหนดนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะบัณฑิตที่จบการศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ 11 สภาวิชาชีพยังคงเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ และสามารถประกอบอาชีพ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสังคม ทุกสภาวิชาชีพเกิดขึ้นจากพระราชบัญญัติของแต่ละสภาวิชาชีพ เป็นองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐบางส่วน และไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร ทุกสภาวิชาชีพมีกรรมการบริหารมาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกที่ประกอบวิชาชีพนั้นๆ และบางส่วนมาจากตัวแทนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบางสภาวิชาชีพยังกำหนดให้ตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษาเข้ามาเป็นกรรมการบริหาร สภาวิชาชีพจึงเป็นองค์กรที่รวบรวมองค์ความรู้ในวิชาชีพนั้นๆ มีความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพ มีฐานข้อมูลของวิชาชีพที่เป็นปัจจุบัน ทราบถึงความต้องการของตลาดแรงงาน วิทยาการใหม่ๆ และปัญหาในการประกอบอาชีพได้ดีที่สุด ตนจึงเห็นว่าคำพูดของอธิการบดีมหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สร้างความสับสนให้สังคมและทำให้สภาวิชาชีพเสียหาย จึงขอวอนให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย

ทั้งนี้ ในวันที่ 29 ส.ค. 2061 ทางสมาพันธ์สภาวิชาชีพ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 11 สภาวิชาชีพ จะจัดแถลงข่าวในเรื่องท่าทีของสภาวิชาชีพที่มีต่อร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา จึงขอเชิญขวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังถึงผลกระทบกับสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมาหากพระราชบัญญัติดังกล่าวประกาศใช้