ทอท.เตรียมสรุปแผนเปิดประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิเข้าบอร์ด ก.ย.นี้

ทอท.เตรียมสรุปแผนเปิดประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิเข้าบอร์ด ก.ย.นี้

ทอท.เตรียมสรุปแผนเปิดประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิเข้าบอร์ด ก.ย.นี้ พร้อมระบุรอดีลร่วมบินไทยปั้น “ทีจี เทอร์มินัล” เล็งเข็นงานบริหารพิคอัพเคาน์เตอร์ออกประมูลต่อเนื่อง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลบริหารกิจการร้านค้าปลอดภาษีและอากร (ดิวตี้ฟรี) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยระบุว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของรูปแบบการบริหาร รวมทั้งประเมินพื้นที่ออกแบบของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอร์มินัล 2) เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการรวมสัมปทานประมูลพร้อมกับเทอร์มินัล 1 และอาคารแซทเทิลไลท์ ซึ่งคาดว่า ก.ย.นี้จะได้ข้อสรุป นำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาก่อนเริ่มต้นขั้นตอนเปิดประมูล

“ขณะนี้ ทอท. รอความชัดเจนใน 2 ประเด็น คือ 1.รอให้ผู้ชนะการออกแบบเทอร์มินัล 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ สรุปเรื่องขนาดพื้นที่ดิวตี้ฟรี และการจัดจราจรในตัวอาคาร 2. ต้องรอหารือกับดีดีการบินไทยคนใหม่ ว่าจะมีนโบายให้สายการบินไทยอยู่ในพื้นที่เดิม หรือจะย้ายไปทำอาคารของการบินไทยโดยเฉพาะที่เทอร์มินัล 2 เนื่องจากการบินไทยมีผู้โดยสารถึง 26 ล้านคนต่อปี ถ้าหากการบินไทยตัดสินใจเลือกอยู่อาคารผู้โดยสารแห่งใด ย่อมส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารแต่ละพื้นที่เป็นอย่างมาก”

นายนิตินัย ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันทีโออาร์นิ่งส่วนหนึ่งแล้ว แต่ต้องรอดูผลกระทบจากเทอร์มินัล 2 ก่อนว่ามีความต้องการจะต้องใช้พื้นที่มากน้อยเพียงใด ถ้าหากการเจรจาร่วมกับการบินไทยยืดเยื้อ ไม่ได้ข้อสรุป ทอท.ก็จะเปิดประมูลดิวตี้ฟรีตามแผนเดิม คือ เปิดในเทอร์มินัล 1 ที่จะหมดสัญญาณสัมปทานในปี 2563 พร้อมกับตัวอาคารแซทเทิลไลท์ ที่จะก่อสร้างเสร็จเปิดกลางปี 2563 เพราะ ทอท.ยังคงกรอบกำหนดได้ตัวผู้รับสัมปทานภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ดี ยังประเมินว่าการรอประเมินพื้นที่เทอร์มินัล 2 เพื่อรวมประมูลในรอบเดียวกันนั้น ถือเป็นการรอที่คุ้มค่า สำหรับการประมูลพื้นที่ให้บริการส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick Up Counter) ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนจ้างที่ปรึกษา เพราะมองว่ายังไม่ใช่งานเร่งด่วน อีกทั้งยังต้องการรอให้การประมูลดิวตี้ฟรีแล้วเสร็จ ได้ผู้รับสัมปทานก่อน จึงจะประเมินความเหมาะสมเพื่อเตรียมเปิดประมูลพิคอัพเคาน์เตอร์ เพราะจะทำให้เห็นสภาพแวดล้อมต่างๆ ชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ดี ทอท.ประเมินแล้วว่า การจัดทำพิคอัพเคาน์เตอร์จะเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทาน เนื่องจาก ทอท.ไม่มีความถนัดในด้านธุรกิจจัดส่ง และบริหารคลังสินค้า แต่หลักการเบื้องต้น หากเอกชนรายใดได้รับสัมปทานพิคอัพเคาน์เตอร์จะต้องเปิดกว้างให้เอกชนรายอื่นเข้ามาใช้งานในพื้นที่ร่วมด้วย