ศาลตั้งสำนวนละเมิดอำนาจแล้ว! กรณีผู้ต้องหาหนี ขณะนำตัวฝากขัง

ศาลตั้งสำนวนละเมิดอำนาจแล้ว! กรณีผู้ต้องหาหนี ขณะนำตัวฝากขัง

"โฆษกศาลยุติธรรม" ระบุ นัดไต่สวนละเมิดศาล 25 ก.ย.นี้ หากผู้ต้องหาฉ้อโกงไม่มาตามเรียก ต้องหมายจับก่อนพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์ นายศราวุธ ตั้งภู่ตระกูล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลหลายแห่งในข้อหาฉ้อโกง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนายก จับตัวได้และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อทำการสอบสวนคดีต่อแต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ระหว่างนำตัวมายื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขัง นายศราวุธ ผู้ต้องหา ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไปจากอาคารศาลแขวงธนบุรีระหว่างรอผัดฟ้องฝากขังนั้น

ล่าสุดวันที่ 21 ส.ค.61 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง หลบหนีออกจากศาลไป ระหว่างที่พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม นำตัวมายื่นฝากขังนั้น ศาลแขวงธนบุรีได้ตั้งเป็นสำนวนคดีกล่าวหานายศราวุธ ละเมิดอำนาจศาลแล้ว โดยกำหนดนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ตามขั้นตอนเมื่อศาลตั้งสำนวนคดีแล้วก็จะออกหมายเรียกแจ้งวันนัดไปยังผู้ถูกกล่าวหาตามที่อยู่ หากผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามหมายเรียก ต่อไปศาลก็จะพิจารณาออกหมายจับ และหากพ้นระยะเวลาในการติดตามตัวตามหมายจับแล้วยังไม่ได้ตัวมา ศาลก็จะพิจารณาคดีลับหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ผอ.สำนักอำนวยการศาลแขวงธนบุรี ได้ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อทำการรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 ได้รายงานข้อเท็จจริงตามลำดับชั้น ต่อผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงธนบุรี , อธิบดีผู้พิพากษาภาค1และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ว่าเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสน.ท่าข้าม ได้นำตัวนายสราวุธ ตั้งภู่ตระกูล ผู้ต้องหา มายื่นผัดฟ้องฝากขังคดีฉ้อโกง 2 สำนวน ผ.519/2561 และ ผ.521/2561 โดยมีการนำผู้ต้องหา เข้าไปยังห้องพิจารณาที่ 12 แต่ตำรวจไม่ควบคุมตัวไว้ตลอดจนกว่าศาลจะมีคำสั่งว่าจะอนุญาตให้รับตัวไว้ผัดฟ้องฝากขังหรือไม่ และเมื่อได้นำคำร้องไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่งานรับฟ้องแล้ว ตำรวจก็เดินทางกลับไปโดยไม่รอฟังคำสั่งศาล และไม่ดำเนินการให้ตำรวจประจำศาลลงชื่อรับตัวไว้ จนเวลา 12.20 น. ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป

โดยเมื่อศาลจะพิจารณาคำร้องผัดฟ้องฝากขังดังกล่าว ได้เรียกตัวผู้ต้องหาแล้วไม่ปรากฏว่าตัวอยู่ในห้อง จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังทั้ง 2 สำนวน และต่อมาได้ตั้งสำนวนกล่าวหา "นายศราวุธ" ผู้ต้องหาที่หลบหนีจากออกห้องพิจารณาระหว่างรอผัดฟ้องฝากขัง ฐานละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 ซึ่งบทลงโทษการละเมิดอำนาจศาลมี 2 วิธีคือหากยังอยู่ในบริเวณศาล ก็ให้ศาลมีอำนาจไล่ออกจากบริเวณ หรือการสั่งลงโทษจำคุก-ปรับ (ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 33 ) ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับพฤติการณ์นายศราวุธ ผู้ต้องหาดังกล่าว ที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม นำมาผัดฟ้องฝากขังนั้น ได้กล่าวหาว่าผู้ต้องหาสั่งซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 5 จากร้านค้า รวม 2 ครั้งๆละ 20 เครื่อง มูลค่าเสียหาย 800,000 บาท โดยเมื่อได้รับสินค้าแล้วผู้ต้องหากลับไม่โอนเงินเข้าบัญชีแล้วหลบหนีไป ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ระบุเหตุว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 5 ปาก และต้องรอผลพิสูจน์ต่างๆ จึงขอผัดฟ้องฝากขังไว้ก่อนเป็นเวลา 6 วัน