บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าที่ 33.18 บาทต่อดอลลาร์

บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าที่ 33.18 บาทต่อดอลลาร์

ในสัปดาห์นี้เงินบาทยังผันผวนในมุมแข็งค่า ตลาดคลายกังวลปัญหาตุรกีบ้าง ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเป็นบวก

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.18บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดสิ้นสัปดาห์ก่อน 33.25 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับภาพรวมตลาดการเงินในสัปดาห์นี้ค่อนข้างเป็นบวกกับตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) และโชคดีที่ตุรกีเข้าช่วงวันหยุดทางศาสนา ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดได้พักและคลายความกังวลลงบ้าง 

ขณะที่ในฝั่งไทย อาจมีความผันผวนมากขึ้น หลังจากที่ตลาดรู้วันเลือกตั้งและการเมืองกำลังเริ่มกลับมา ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจยังคงเป็นบวก

ดังนั้น ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จึงมีแนวโน้มผันผวน แต่เชื่อว่าจะเคลื่อนไหวในมุมแข็งค่าเป็นหลักถ้าตลาดการเงินเอเชียฟื้นตัว เราเชื่อว่าภาพสงครามการค้าระหว่างประเทศผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว จึงมีโอกาสกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น

 อย่างไรก็ตามเรามองภาพรวมเศรษฐกิจไทยระยะสั้นยังค่อนข้างมีความเสี่ยง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส2 มีโอกาสที่จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ ขณะที่มีความไม่แน่นอนทาง การเมืองเพิ่มเข้ามาด้วย มองกรอบเงินบาทวันนี้ 33.15-33.25 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 33.00 - 33.50 บาทต่อดอลลาร์

ทางด้านตลาดการเงินสัปดาห์นี้ ต้องจับตาไปที่ตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาสที่สอง การหารือระหว่างสหรัฐและจีนเรื่องการค้า และการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐที่เมืองแจ็คสันโฮล

เริ่มต้นในวันจันทร์ การรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของประเทศไทยคาดว่าจะขยายตัว 4.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นราว 0.60% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจจะดูชะลอตัวเล็กน้อยเนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวช้าลงจากไตรมาสแรก แต่ยังมีการท่องเที่ยวที่หนุนเศรษฐกิจอยู่ 

ในวันพุธ รองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อหาข้อตกลงด้านการค้าตามคำเชิญของฝั่งสหรัฐ แม้ตลาดยังเชื่อว่าจะไม่มีการทำข้อตกลงใดใด แต่การหารือครั้งนี้อาจสร้างแนวทางเพื่อการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

วันศุกร์ ต้องจับตาไปที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นายเจอโรมโพเวลล์ ที่มีกำหนดให้ถ้อยแถลงในหัวข้อ นโยบายการเงินในเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งตลาดจะจับตาไปที่ช่วงถามตอบ เนื่องจากในหลายปีที่ผ่านมาเฟดมักส่งสัญญาณการเปลี่ยนแนวทางของนโยบายทางการเงินในการประชุมประจำปี