'สามมิตร' ชี้รัฐบาลมาถูกทางแล้ว ปราบนายทุนโกงคืนที่ดินชาวอีสาน

เมื่อ19 สิงหาคม 2561 นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาฯกลุ่มสามมิตร กล่าวที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตร ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรจะน้อยลงหรือไม่ว่า กลุ่มสามมิตรจะเดินหน้าตามปรกติคือการเดินเข้าหาพี่น้องประชาชนอยู่ทุกวัน ไม่มีอะไรน้อยลงแต่อย่างใด แต่อาจจะปรากฏทางข่าวสารไม่เท่าเดิม คือการไปเดินหาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนก็จะไม่มีการออกทีวีหรือสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมาสามมิตรได้ไป อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พบประชาชนชาวบ้านกำลังเดือดร้อนมากกับพื้นที่แห้งแล้งแม่น้ำมูลแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามไปยัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านอยากให้รัฐบาลปล่อยน้ำจากเขื่อนไปช่วยเหลือ เพราะข้าวกำลังแล้งตาย ไม่ใช่ปล่อยตอนน้ำท่วม

และเมื่อ 6 วันที่ผ่านมาสามมิตรไป จ.ชัยภูมิ รับปัญหาของชาวไร่อ้อย เพราะราคาตก เมื่อปีที่แล้วโรงงานรับซื้อตันละ 1,400 บาท ปีนี้ซื้อที่ 700 บาท แต่มาวันนี้ซื้อแค่ตันละ 300 บาท ปรากฏว่ามีชาวบ้านบ้านหนองแหน อ.เมืองชัยภูมิ ถึงกับกินยาฆ่าตัวตาย ทางสมาคมไร่อ้อย จ.ขอนแก่นและ จ.ชัยภูมิ อยากให้รัฐบาลมาเยียวยา ไม่ต้องมากแต่ขอให้ชีวิตเขาอยู่ได้ เป็นต้น นี่คือสิ่งสามมิตรต้องเดินทางเพื่อสะท้อนปัญหา ฉะนั้นสามมิตรไม่ได้ลดในการเดินหาประชาชนแต่กลับยิ่งคล่อง เพราะไม่ต้องภวังค์หน้าภวังค์หลัง วันนี้เราไม่กลัวใครจะว่าเราสต๊อบในการเดินทาง แต่เขาบอกห้ามชุมนุมเกิน 5 คนสามมิตรก็จะชุมนุมทีละ 4 คนก็ได้ คงไม่ผิดกฎหมาย

ต่อข้อถาม กกต. ชุดใหม่ระบุว่าอาจจะเลือกตั้งวันที่ 24 กุภาพันธ์ 2562 สามมิตรถึงจะต้องใช้การวิ่งเข้าหาประชาชนแทนการเดิน เพื่อจะให้ทันกับวันเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายภิรมย์ฯกล่าวว่าวันนี้สามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง สามมิตรเป็นกลุ่มความคิด ไปหาความต้องการของประชาชน ฉะนั้นจะทันหรือไม่ทัน เราไม่เห็นจะเป็นประเด็นสำคัญว่าจะทันหรือไม่ทันเลือกตั้ง แต่เรายิ่งได้ใจ ได้แก้ปัญหาพี่น้องประชาชน โอกาสที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีอยู่กินได้มากนั่นคือ ปัจจัยสำคัญของกลุ่มสามมิตร และเรายังเดินต่อไปวันที่ 24 สิงหาคม 2561 นี้ สมาคมโคเนื้อ จ.ขอนแก่นร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเชิญสามมิตรไปแลกเปลี่ยนทัศนคติเรื่องโคเนื้อที่คิดตรงกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้ากลุ่มสามมิตรก็ต้องไปร่วมด้วย แต่ไม่ได้ไปหาเสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน สามมิตรกลัวถูกจับหรือไม่ นายภิรมย์ฯตอบว่า เรากลัวจับเหมือนกันถ้าทำผิด แต่พวกเรามั่นใจว่าไม่ผิด เนื่องจากว่าไม่ได้ไปหาเสียงเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ไปหาเสียงเป็นผู้แทนราษฏร แต่ไปหาแลกเปลี่ยนว่า ถ้าเกิดว่าตนไปแล้วเขาเดินมาหาตนแล้วเขาเดือดร้อนเรื่องใดเราก็สรุปไว้ ฉะนั้นตนมั่นใจว่าเขาคงไม่จับสามมิตรถ้าทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ส่วนอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทยบางคนบอกว่าสามมิตรเดินสายดูดอดีต ส.ส. เป็นการทำการเมืองแบบน้ำเน่าและที่เคยดูดไปแล้ววันนี้ได้กลับไปอยู่พรรคเพื่อไทยคืนนั้น นายภิรมย์ฯตอบว่า การเมืองน้ำเน่าก็คือกระแนะกระแหน แล้วก็สาดโคลน และก็ด่ากัน แต่สามมิตรตั้งมา 4 เดือนไม่เคยด่าใคร ไม่พาดพิงถึงใคร ก็แล้วแต่จะคิด แต่วันนี้เราได้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ฉะนั้นเรายิ่งเดินประชาชนยิ่งได้ประโยชน์ ส่วนที่มีการพูดว่าไปดูดมาแล้วและไหลกลับไปคืน เพราะไม่จ่ายเงินให้เขา นั่นคือข้อเท็จจริงที่เป็นจริงข่าวที่ว่าสามมิตรไปดูดเขาคนละ 40-50 ล้านบาทนั้น ตนก็บอกแล้วและยืนยันมาตลอดว่า ไม่ได้ดูดด้วยเงินด้วยทอง ถ้าสามมิตรไปดูดเขาแล้วจ่ายเขาคนละ 40-50 ล้านเขาไม่หนีหรอก วันนี้ได้ข่าวว่าเขาหนีกลับ เขาไม่ได้ตังค์ก็คงจะใช่ ถ้าเขามาเพื่อเอาเงิน 40-50 ล้านจากกลุ่มสามมิตรจริง

สรุปว่าสามมิตรไม่ได้ดูดเรื่องเงิน ดูดเรื่องสมอง ดูดความต้องการของเขาและประโยชน์ของประชาชนในเขตพื้นที่ ถ้าอยู่กับสามมิตรหรือไปในวันข้างหน้าเกิดตั้งพรรคการเมืองได้ โอกาสที่จะได้รับความต้องการของประชาชนมากเขาก็อยู่ ฉะนั้นแน่นอนว่าใครมาเพื่อเอาเงินแล้วกลับไปถือว่าของแท้และเป็นการพิสูจน์ความจริงแล้วว่าสามมิตรไม่ดูดด้วยเงิน

ส่วนคนที่ออกมาโจมตีกลุ่มสามมิตร และเรียกร้องให้ กกต. ตรวจสอบ และให้ คสช. ดำเนินการกลุ่มสามมิตรนั้น นายภิรมย์ฯกล่าวว่า สามมิตรทำผิดกฎหมายข้อไหน 1.เรายังไม่มีพรรคการเมือง 2.สามมิตรเดินไปมาแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน รัฐบาลบอกว่าอยากให้พี่น้องประชาชนในประเทศชาติปรองดอง เราเดินไปหาเสื้อเหลือง เสื้อแดงมาคุยกันหมด ไม่เห็นมีเสื้อแดง เสื้อเหลืองมาด่าพวกผมเลย มีแต่ฝากขอบคุณพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ทำจริงชาวอีสาน 700-800 คนได้ใบนาหรือโฉนดที่ดินกลับคืนมาจากนายทุนที่โกง มาถึงวันนี้ชาวอีสานเขาก็รักพลเอกประวิตรฯเหมือนกัน ที่ทำประโยชน์ให้กับเขา

ถ้าไม่มีพลเอกประวิตรฯหรือไม่มีรัฐบาลชุดนี้เขาก็ไม่ได้ใบนาคืน วันนี้คนยากคนจนที่ถูกนายทุนโกงน้ำตาไหล ที่น้ำตาไหลเห็นว่ารัฐบาลทำดี วันนี้เป็นโมเดลแล้วว่า ปราบนายทุนโกงคนยากคนจนเขาได้ใจแล้วคนจนที่ถูกนายทุนเอาเปรียบ ฉะนั้นสามมิตรยิ่งไปยิ่งเห็นปัญหา เป็นตา เป็นใจ สะท้อนให้รัฐบาล รัฐบาลเห็นอันไหนดีก็ทำ รัฐบาลมองเห็นแล้วว่า ภิรมย์ฯ และสามมิตรเดิน มันไม่ผิด เขาจะไปจับทำไม พวกผมเป็นประชาชนอาจจะดีตรงว่า ผู้สื่อข่าวสนใจเสนอข่าวปัญหาของประชาชนก็ทำให้เป็นข่าวยิ่งได้บุญ ผมก็ได้บุญ แต่จะได้บุญมากกว่านี้ถ้ารัฐบาลทำตามที่พี่น้องประชาชนต้องการ

ส่วนแกนนำสามมิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะมีเซอร์ไพรส์อะไรนั้น นายภิรมย์ฯกล่าวว่า มีเซอร์ไพรส์แน่นอน แต่บอกไม่ได้ ถ้าบอกก็จะไม่เซอร์ไพรส์ ต้องรอให้นายสมศักดิ์ฯบอกเองมีเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อข้อถามหลังจากเดินไปหาประชาชนแล้วถึงวันนี้ สามมิตรจะเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายภิรมย์ฯกล่าวว่าวันนี้สามมิตรไม่ใช่พรรค แต่เป็นกลุ่มสามมิตร กลุ่มความคิด ฉะนั้นวันนี้สามมิตรอาจจะแซงพรรคเพื่อไทยเรื่องความคิด ความอ่าน เพราะพรรคเพื่อไทยทำดีมาเรื่อยๆ แต่ว่าสามมิตรอาจจะแซงความคิดเนื่องจากว่า หลากหลายความคิด เรารับปัญหาจากประชาชน ไม่ใช่นั่งโต๊ะแล้วคิดเอา ยิ่งเราเดินทุกวันยิ่งได้รับปัญหา และยิ่งเห็นว่าประชาชนแต่ละพื้นที่เขาต้องการอะไร ฉะนั้นวันนี้มั่นใจว่าเราทำงานมา 4 เดือนเริ่มมีกระแสพี่น้องประชาชนอยากเจอสามมิตรโทรมาทุกวันอยากให้ไปแลกเปลี่ยนก็ไปทุกวัน เดี๋ยวจะหาว่าพวกเราเอาเปรียบอีก

แต่วันนี้เราทำงานอยู่ทุกวันในกรอบของกฎหมายที่เขาบังคับว่าทำได้แค่ไหน และจุดยืนของสามมิตรสนับสนุนคนทำดีให้กับประชาชน ตอนนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทำงานดีให้กับประเทศชาติเราก็สนับสนุน พลเอกประวิตรฯทำงานดีช่วยคนยากคนจนที่ถูกนายทุนโกงเราก็สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ฯและพลเอกประวิตรฯหรือใครก็แล้วแต่ที่ทำความดีให้กับประเทศชาติแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้เขาได้สามมิตรสนับสนุนทุกคนที่ทำความดีให้กับประชาชน ส่วนการจะเข้ามาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของอนาคตว่านายกรัฐมนตรีจะมาแบบไหน วันนี้เราไม่คิดถึงว่าจะเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สามมิตรกำลังเดินหาจุดร่วมว่า เสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือกลุ่มหลากหลายอาชีพว่า ประเทศจะเดินแนวทางไหนนั่นคือความต้องการของสามมิตร

ตอบข้อถามถึงอดีตนายกทักษิณฯ ออกมายืนยันหนักแน่นว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลาย ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจริงอดีตนายกทักษิณฯจะได้กลับมาหรือไม่ นายภิรมย์ฯตอบว่า พรรคเดิมตนชนะถล่มทลายจริงตอนปี 2554 แต่ปีนี้ 2561 หรือ 2562 มันยังไม่ถึงเลย มันอาจจะถล่มทลายตรงข้ามก็ได้ ก็คือเพื่อไทยอาจจะแพ้ถล่มทลายก็ได้ เพราะปีนี้ 2561 ยังไม่ถึง 2562 เลย แต่เมื่อปี 2554 ตนเห็นแล้ว เจ้านายเก่าตนชนะถล่มทลายจริง แต่ว่าปี 2561 และ 2562 อาจจะถล่มทลายเหมือนกันนั่นก็คือ อาจจะถล่มทลายเรื่องแพ้ นายภิรมย์ฯกล่าว