จีนถกการค้าสหรัฐหนุนดาวโจนส์พุ่งเกือบ400จุด

จีนถกการค้าสหรัฐหนุนดาวโจนส์พุ่งเกือบ400จุด

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยปรับตัวลง 2,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเกือบ 400 จุดเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบที่ดีเกินคาดของวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,558.73 จุด พุ่งขึ้น 396.32 จุด หรือ +1.58% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,806.52 จุด เพิ่มขึ้น 32.41 จุด หรือ +0.42% และดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,840.69 จุด เพิ่มขึ้น 22.32 จุด หรือ +0.79%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า คณะผู้แทนของจีน ซึ่งนำโดยนายหวัง โชเหวิน รมช.พาณิชย์จีน มีกำหนดจะเดินทางเยือนสหรัฐในเดือนนี้ เพื่อเจรจากับตัวแทนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายเดวิด มัลพาส ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ โดยการเจรจาดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า

นักลงทุนจับตาดูว่า การเจรจาดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 23 ส.ค.หรือไม่ ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ขู่ตอบโต้สหรัฐเช่นกัน

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.2% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ดีดตัวขึ้น 1.2% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นเคแอลเอ็กซ์ ขยับขึ้น 0.4% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ดีดตัวขึ้น 0.7%

หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 9.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.2803 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.2597 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรอยู่ที่ 1.29 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น และยอดขายพุ่งขึ้น 4.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4%

ขณะที่หุ้นเทสลา ร่วงลง 1% หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) ออกหมายเรียกนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา เข้าให้ปากคำในกรณีที่นายมัสก์ได้ทวีตข้อความระบุว่า เขากำลังพิจารณานำเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นที่ระดับราคา 420 ดอลลาร์

นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการเงินในตุรกี หลังจากรัฐบาลตุรกีเปิดเผยว่า กาตาร์ได้ตกลงที่จะเข้าลงทุนโดยตรงในตุรกีคิดเป็นวงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ