ตร.แจ้ง2ข้อหา หนุ่มขับรถชนลุงนักปั่นจักรยานดับ เสาไฟหัก7ต้น

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ร.ต.อ.สุภณ ตรงบรรทัด รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางเสาธง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถรถยนต์เสียหลักชนคนปั่นจักรยาน และชนเสาไฟฟ้าหักโค่น บริเวณบนถนนกาญจนาภิเษก ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมประสานการไฟฟ้านครหลวงเพื่อมาดำเนินการกับเสาไฟที่ได้รับความเสียหาย
ที่เกิดเหตุหน้าอู่สยามเดินรถ ถนนตัดใหม่พระเทพ มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก ประมาณ 150 เมตร พบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียนป้ายแดง ก 4195 กรุงเทพมหานคร จอดเสียหลักอยู่ข้างทาง โดยพุ่งเข้าชนร้านขายของชำริมถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน เสาไฟฟ้าแรงสูงถูกชน และหักโค่น โดยสายไฟได้รั้งดึงเสาไฟฟ้าโค่นลงมาขวางการจราจรรวม 7 ต้น ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถจักรยานสภาพพังยับ ใกล้กันพบศพนายวันชัย นายวันชัย สดศถุงฆาร อายุ 67 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 481/376 ซอยจรัล 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. ซึ่งเป็นคนปั่นรถจักรยาน

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับรถยนต์และผู้โดยสารที่เป็นเพื่อนมาด้วยกัน รวม 3 คน ประกอบด้วย นายจารุกิจ สุทธวงศ์วนิช อายุ 25 ปี นายวีรวุฒิ สินกระอาจ อายุ 25 ปี และ นายศรายุทธ แซ่อึ้ง อายุ 25 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค

สำหรับเสาไฟฟ้าที่หักโค่นและสายไฟแรงสูงพาดลงมากลางถนน ทำให้ไม่สามารถเดินรถได้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดช่องทางการจราจรบนเส้นทางนี้เหลือ 1 ช่องทางขนาน ซึ่งใช้งานได้ช่องขวาสุด เพื่อความสะดวกในการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ขณะเดียวกันเหตุที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้ไฟฟ้าดับในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งทำการกู้และติดตั้งเสาไฟฟ้าต้นใหม่เพื่อให้ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ปกติอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในส่วนผู้ก่อเหตุขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะควบคุมตัวไปยัง สน.บางเสาธง เพิ่อทำการสอบปากคำและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ต่อไป

จากการสอบสวนนายมงคล อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร ซึ่งอยู่ริมถนนติดกับที่เกิดเหตุ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาระหว่างที่กำลังเปิดร้าน ได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้ส่งเสียงเห่าอยู่หน้าร้าน จึงเดินออกมาดู แต่ยังไม่ทันถึงหน้าร้าน ก็สังเกตเห็นรถฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักชนข้าวของที่วางอยู่หน้าร้าน จากนั้นก็พุ่งชนนายวันชัย ซึ่งเป็นลูกค้าที่ยืนอยู่บริเวณหน้าร้าน จนร่างกระเด็นลอยไปตกที่กองบันไดไม้ไผ่ ถือเป็นเหตุสลดต่อหน้าต่อตา ก่อนที่รถคันเกิดเหตุจะพุ่งไปชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่น แล้วสายไฟก็ดึงรั้งเสาต้นอื่นล้มไปตามๆกัน

นายมงคล เล่าอีกว่า จากนั้นรถคันดังกล่าวไปจอดชนรั้วกำแพงปูนข้างร้านของตน จึงวิ่งไปดูคนที่ถูกชน แต่พบว่านอนแน่นิ่งไปแล้ว พอเดินไปดูที่รถฟอร์จูนเนอร์ ก็เห็นมีชายวัยรุ่นอยู่ในรถ 3 คน โดยตนได้กลิ่นเหล้า จากนั้นก็รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

เวลาต่อมามี น.ส.อุมา ตันติวิกูลกิจ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมพูดด้วยความโศกเศร้าและร้องไห้น้ำตานองหน้าว่า หลังจากสามีเกษียณจากงานธนาคารในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ก็ได้มาออกกำลังกายปั่นจักรยานยามว่าง โดยจะทำอย่างนี้เป็นประจำทุกเช้าต่อเนื่องมากว่า 4 ปีแล้ว ด้วยการปั่นจากบ้านพักที่ซ.จรัญสนิทวงศ์ 37 ลัดเลาะมาตามถนนพระเทพ-ตัดใหม่ ซึ่งวันนี้ก่อนที่สามีออกจากบ้านได้บอกว่า จะไปปั่นจักรยานและจะแวะซื้อกระป๋องฝักบัวรดน้ำต้นไม้ ตรงบริเวณถนนกาญจนภิเษก แต่ก็ไม่คิดว่าสามีจะมาจบชีวิตแบบนี้

ด้าน ร.ต.อ.สุภณ บอกว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานบุคคคลที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับ นายจารุกิตต์ ซึ่งเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ไว้ 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทจนเป็นเกตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินอันเป็นของหลวงหรือของสาธารณะเสียหาย ส่วนผู้ต้องหาจะเมาในขณะขับรถหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถ้าผลออกมาว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนประเด็นทรัพย์สินของการไฟฟ้าเสียหายนั้น ผู้ต้องหาจะต้องชดใช้ทั้งหมด