ราชกิจจาฯ ประกาศคุณสมบัติเลขาธิการ 'อีอีซี'

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง การกําหนดความรู้ ความชํานาญ และประสบการณ์ของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดความรู้ ความชํานาญและประสบการณ์ ของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อให้การบริหารงานสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยังประโยชน์แก่กิจการของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกอบกับมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเรื่อง การกําหนดความรู้ ความชํานาญ และประสบการณ์ของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ
คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก”

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้

“สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ข้อ ๔ เลขาธิการต้องมีความรู้ ความชํานาญ และประสบการณ์ ดังต่อไปนี้
(๑) มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโท จากสถาบันการศึกษาที่สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรับรอง

(๒) เป็นผู้มีความรู้ในด้านการค้า การลงทุน เศรษฐกิจ การเงินและการคลัง การพัฒนาธุรกิจและบริหารความเสี่ยง ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประมาณปัจจัยที่มีผลการเปลี่ยนแปลง

(๓) เป็นผู้มีความรู้ในด้านการพัฒนาและการบริหารโครงการโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค

(๔) เป็นผู้มีความเข้าใจและประสบการณ์ในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งในระดับชุมชนท้องถิ่น ภูมิภาค และประเทศ รวมถึงการวางแผนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างบูรณาการ

(๕) มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ ดังต่อไปนี้

ก) เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐเทียบเท่าระดับกรมขึ้นไป และมีระยะเวลาในการดํารงตําแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือ

ข) เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานภาคเอกชนที่มีรายได้ในขณะดํารงตําแหน่งไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี และมีระยะเวลาในการดํารงตําแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือ

ค) เป็นหรือเคยเป็นเลขาธิการ หรือเป็นหรือเคยเป็นพนักงานของสํานักงานซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่ารองเลขาธิการ

ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก