วิตกสงครามการค้าฉุดดาวโจนส์ร่วง

วิตกสงครามการค้าฉุดดาวโจนส์ร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (8ส.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวร่วงลง หลังจากที่จีนเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้มาตรการของโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของวอลท์ ดิสนีย์

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 45.16 จุดหรือ 0.18% ปิดที่ 25,583.75 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลบ 0.75 จุดหรือ 0.03% ปิดที่ 2,857.7  จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 4.66 จุดหรือ 0.06% ปิดที่ 7,888.33 จุด

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงนำตลาดวันนี้ 

กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงในวันนี้ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและรถยนต์ เพื่อตอบโต้สหรัฐ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.

ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนล็อตแรกในอัตรา 25% วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นไม่นาน จีนก็ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีท โดยบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 เกือบ 90% ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งบริษัท 76.36% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีกำไร และรายได้ต่ำกว่าคาดในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ตามปีงบการเงินของบริษัท

ทั้งนี้ ดิสนีย์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.87 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.95 ดอลลาร์/หุ้น มีรายได้ที่ระดับ 1.523 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.534 หมื่นล้านดอลลาร์