ไร้บ้านกว่า 7 หมื่นคนเซ่นดินไหวลอมบอก

ไร้บ้านกว่า 7 หมื่นคนเซ่นดินไหวลอมบอก

อินโดนีเซียเผย มีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 70,000 คนจากเหตุแผ่นดินไหวเขย่าเกาะลอมบอก ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่อพยพออกจากเกาะแล้ว

นายซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีวันนี้ (8 ส.ค.) ว่า ขณะนี้ ประชาชนกว่า 70,000 คนต้องกลายเป็นคนไร้บ้านหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 นอกเกาะลอมบอก ในจ.นูซา เต็งการาตะวันตก เมื่อวันอาทิตย์ (5 ส.ค.) ผู้ประสบภัยต้องอยู่อย่างยากลำบากในศูนย์พักพิงชั่วคราว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ขณะที่ศูนย์พักพิงขาดทั้งอาหาร ยา และน้ำสะอาด

“แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่เกาะลอมบอก คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 105 คน มีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกราว 236 คน และบ้านเรือนพังเสียหายหลายหมื่นหลัง”

ด้านนายมูฮัมหมัด ไซนุล มัจดี ผู้ว่าการจังหวัดนูซา เต็งการาตะวันตก กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ต้องการทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์ อาหาร และยา อย่างเร่งด่วน

"ผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนต้องนอนรักษาตัวนอกโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายในเมืองหลักอย่างมาตารัมและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแห่งอื่น ๆ เรามีทรัพยากรมนุษย์จำกัด เจ้าหน้าที่แพทย์บางส่วนต้องอยู่ที่ศูนย์พักพิง บางส่วนต้องเดินทางลงพื้นที่ และแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของจังหวัด"

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า ภารกิจอพยพนักท่องเที่ยวออกจากหมู่เกาะกีลีซึ่งอยู่ทางทางตะวันตกเฉียงเหนือนอกชายฝั่งเกาะลอมบอก เสร็จสิ้นแล้ว

“มีการอพยพนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ออกจากพื้นที่แล้ว” นายยูซุฟ ลาติฟ โฆษกทีมค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติเผย

ด้านผู้จัดการทั่วไปของสนามบินเกาะลอมบอก ระบุว่า หลายสายการบินได้เพิ่มเที่ยวบินเสริม และเจ้าหน้าที่สนามบินได้เตรียมผ้าห่มและอาหารว่างไว้ให้ผู้โดยสารแล้ว