พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฎิเสธกระแสข่าวลือ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ"เสี่ยอ้วน บางลา” เจ้าของสถานบันเทิงหลายแห่งใน จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับบ่งการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 20 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้าม พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.61 โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการจับกุมเสี่ยอ้วน ตามที่มีกระแสข่าวลือดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตามรอยต่อ บริเวณแถบชายแดนไทยกัมพูชาแล้ว
ทางด้าน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราบ กล่าวปฎิเสธการจับกุมตัว “เสี่ยอ้วน” เช่นกัน โดยระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างเร่งรัดการติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ โดยยอมรับว่าจากแนวทางการสืบสวนขณะนี้ พบเบาะแสของผู้ต้องหาหลบไปที่ประเทศกัมพูชาจริง โดยไปอาศัยกบดานอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชา ซึ่งตนเองได้ประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัวอีกทางหนึ่งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังเกิดเหตุ“เสี่ยอ้วน” ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.ปอยเปต เมืองชายแดนไทย-กัมพูชา และได้มีการเปิดใช้โทรศัพท์มือถือเพียง 3 ครั้ง โดย 1ในหมายเลขโทรศัพท์ พบว่า มีการโทรเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อติดต่อกับคนไทยรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพี่ชายของลูกน้อง “เสี่ยอ้วน” ในจังหวัดภูเก็ต ที่มีภรรยาอยู่ในกัมพูชา เพื่อขอให้พาหลบหนีไปซ่อนตัวในหมู่บ้านเกาะพงสัก ต.สวาย จว.บันเตยเมียนเจย ซึ่งห่างจาก ต.ปอยเปต ประมาณ 60 กม.
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.61)เวลา15.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจ จะลงพื้นที่ สภ.นาจอมเทียน จว.ชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้า และจะแถลงการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าว รายล่าสุดด้วย
