หมอสูฯ ย้ำหญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับ 'โฟลิก' เสริมช่วง 3 เดือนแรก

หมอสูฯ ย้ำหญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับ 'โฟลิก' เสริมช่วง 3 เดือนแรก

หมอสูฯ ย้ำหญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับ “โฟลิก”เสริมช่วง 3 เดือนแรก ป้องกันทารกพิการแต่กำเนิด ขณะที่คนคิดมีลูกควรกินอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนตั้งครรภ์ แม่เครียดระหว่างท้องส่งผลกระทบอารมณ์ทารก

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ รพ.พิจิตร กล่าวถึงละครเรื่อง “เกมเสน่หา” ที่มีการนำเสนอการให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานโฟลิก เพื่อป้องกันทารกพิการว่า สารโฟเลตคือวิตามินบี 9 เป็นสารที่มีอยู่ในธรรมชาติ อาทิ ผักสด ผลไม้สด คนทั่วไปควรได้รับวันละ 400 ไมโครกรัม ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา พบว่า คนทั่วไปได้รับโฟเลตไม่เพียงพอจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว จึงมีการทำเป็นยาเม็ดโฟลิกเพื่อรับประทานเสริมเข้าไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์


คำแนะนำจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวช ระบุว่า หญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับโฟลิกอย่างเพียงพอ เพราะมีผลต่อทารกในครรภ์ คือ กินก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-2 เดือน และกินต่อเนื่องระหว่างตั้งครรภ์อีก 3 เดือน เพราะสารโฟเลตจะเข้าไปช่วยในการสร้างเซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมองให้สมบูรณ์ ป้องกันทารกพิการแต่กำเนิด ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับ โฟเลตมากเกินไปจนกระทบกับทารกในครรภ์ เพราะสารดังกล่าวจะละลายในน้ำ หากได้รับมากก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ


พญ.ชัญวลี กล่าวอีกว่า ในหญิงตั้งครรภ์ต้องมีการระมัดระวังหลายเรื่อง โดยส่วนสำคัญคือสามีควรเอาใจใส่ภรรยา ระวังอย่าให้หญิงตั้งครรภ์เครียด เพราะมีผลกระทบต่อภาวะอารมณ์ของทารก ซึ่งพบว่าเมื่อเด็กเกิดมาบางคนชอบกรีดร้อง มีปัญหาทางอารมณ์ ทั้งนี้ เมื่อท้องโตขอแนะนำให้นอนตะแคงด้านซ้าย เพื่อป้องกันการกดทับเส้นเลือด สำหรับประเด็นที่มีคนสงสัยเรื่องการแพ้ท้อง เช่น สามีแพ้ท้องแทนภรรยาเกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะคู่ที่มีความผูกพันกันมากๆ หรือภรรยาเหม็น เบื่อสามีก็เป็นเรื่องจริง เพราะการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของคนท้องทำให้จมูกไวต่อการรับกลิ่น เช่น ปกติหากสามีสูบบุหรี่แล้วคนทั่วไปอาจจะได้กลิ่นไม่ค่อยรุนแรง แต่กลับกันคนท้องจะได้กลิ่นที่แรงมาก รวมถึง การที่ภรรยาตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรกอาจจะแพ้ท้องมาก จึงไม่ต้องการให้สามีแตะต้องหรือมีเพศสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น