'บีโอไอ' บุกงานแสดงชิ้นส่วนในญี่ปุ่น จับคู่เอสเอ็มอี กว่า 200 คู่

'บีโอไอ' บุกงานแสดงชิ้นส่วนในญี่ปุ่น จับคู่เอสเอ็มอี กว่า 200 คู่

"บีโอไอ" นำเอสเอ็มอีบุกงานแสดงชิ้นส่วนในญี่ปุ่น ผลเจรจาธุรกิจกว่า 200 คู่ ดันลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย

นางสาวกรองกนก มานะกิจจงกล ผู้อำนวยการกองพัฒนา และเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ บีโอไอได้นำคณะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวม 30 บริษัท ประกอบด้วย ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยาง และผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมของไทย เดินทางไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกิจกรรมหารือและจับคู่ธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทยกับเอสเอ็มอีญี่ปุ่น และเปิดบูธแสดงศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนของผู้ผลิตไทย ภายในงานเอ็มเทค โตเกียว 2018 (M-Tech Tokyo 2018) ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วน และวัสดุอุตสาหกรรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 80,000 คน

ทั้งนี้กิจกรรมเจรจาธุรกิจ และเปิดบูธได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ และเอสเอ็มอีญี่ปุ่นที่เข้าร่วมชมงาน โดยมีการเจรจาธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีของ 2 ประเทศ รวมกว่า 234 คู่ และมี 24 บริษัทไทยที่ได้รับการติดต่อซื้อขายชิ้นส่วนกับบริษัทญี่ปุ่นภายหลังงาน

ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีญี่ปุ่นจำนวนมาก สนใจสอบถามถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการขยายการผลิตในประเทศไทย อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องการหาบริษัทขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เพื่อทำข้อต่อในร่างกาย ผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์ต้องการเข้ามาตั้งกิจการในประเทศ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมสนใจเข้ามาลงทุนผลิตวาล์วในประเทศไทย เป็นต้น

“งานเอ็มเทค เป็นงานใหญ่ประจำปีของญี่ปุ่น ภายในงานประกอบด้วยส่วนการจัดแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วนและวัสดุอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับเครื่องกล รวมถึงการออกแบบทางวิศวกรรม ซึ่งล้วนเป็นกิจการเป้าหมายที่บีโอไอต้องการดึงเข้ามาลงทุนในไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญของเอสเอ็มอีไทยที่จะได้แสดงศักยภาพการผลิต เพื่อหาพันธมิตร และเกิดการเชื่อมโยงซื้อขายชิ้นส่วนร่วมกันต่อไป โดยเฉพาะครั้งนี้ บีโอไอได้ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว จัดเวทีให้เอสเอ็มอีของ 2 ประเทศได้พบหารือกันโดยตรง ซึ่งจะก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันต่อไป และจากผลสำเร็จในการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ บีโอไอวางแผนที่จะจัดกิจกรรมในรูปแบบเดียวกันอีกในปีถัดไป โดยตั้งเป้าหมายจะเชิญชวนผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น” นางสาวกรองกนก กล่าว

นางสาวกรองกนก กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะเอสเอ็มอีของไทยยังได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมชม และรับทราบนโยบายการจัดหาชิ้นส่วน และภาพรวมการประกอบรถประเภทต่างๆ ได้แก่ โรงประกอบรถบรรทุกเล็ก รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถประกอบพิเศษ ของบริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ ตั้งอยู่ที่เมืองฮามูระ ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงงานประกอบรถ มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 จาก 4 โรงงานของฮีโน่ โดยบริษัทสนใจพัฒนาขั้นตอนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อรองรับตลาดในอนาคตด้วย