จัดระเบียบ-คุมเข้ม4ท่าเรือภูเก็ต สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

จัดระเบียบ-คุมเข้ม4ท่าเรือภูเก็ต สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

ศรชล.เขต 3 บูรณาการกำลังจัดระเบียบเรือนักท่องเที่ยวไปเกาะ เบื้องต้นคุมเข้ม 4 ท่าเรือท่องเที่ยวหลักภูเก็ต เรียกความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวทางทะเล

(13 ก.ค.61) ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต (ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง) อ.เมือง จ.ภูเก็ต พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้ร่างของนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือฟินิกซ์ว่า ยังคงมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีระหว่างนักประดาน้ำของทัพเรือและทีมของจีน โดยยังคงมีการค้นหาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า แม้สภาพทั่วไปท้องฟ้าโปร่ง แต่บริเวณจุดเรือจมซึ่งเป็นร่องน้ำช่องเดินเรือทำให้มีกระแสน้ำและลมแรงมาก และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานค่อนข้างมาก แต่เราก็จะยังดำเนินการในกู้ร่างขึ้นมาให้ได้โดยเร็วภายใน 1-2วันนี้

ในส่วนของมาตรการควบคุมการเดินเรือท่องเที่ยวตามอำนาจของ ศรชล.เขต 3 ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานหลัก บูรณาการการทำงานร่วมกัน และจากการประชุมหารือร่วมกันได้ข้อสรุป ว่า จะบูรณาการเจ้าหน้าที่จากทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตและ ตำรวจน้ำ จัดกำลังเพิ่มเติมบริเวณท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกก่อนที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นเรือและเรือจะออกจากฝั่ง เบื้องต้นเริ่มต้นที่เรือขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป โดยเริ่มดำเนินการใน 4 ท่าเรือหลัก ได้แก่ ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรือรัษฎา ท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า และท่าเรือวิศิษฐ์พันวา

“ปกติจะมีเจ้าหน้าที่ของเจ้าท่าฯ รับผิดชอบตรวจสอบความพร้อมของเรืออยู่แล้ว แต่ทางเราจะเป็นกำลังไปเสริม เพื่อควบคุมจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด โดยตรวจสอบในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลงเรือแต่ละลำ เรือนำนักท่องเที่ยวไปบริเวณใด ความพร้อมของกัปตันเรือ สภาพเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตในเรือหากเกิดเหตุไม่คาดคิด ผู้ดูแลนักท่องเที่ยว และได้เน้นย้ำในส่วนของผู้ดูแลนักท่องเที่ยวที่จะไปดำน้ำจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ ไดร์มาสเตอร์ 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 4 คน หากไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนดจะไม่มีการปล่อยเรือออกจากท่าโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด”

พล.ร.ท.สมนึก กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีการส่งเรือลาดตระเวนทั้งในส่วนของเรือจากทัพเรือภาคที่ 3 เรือตรวจการเจ้าท่า เรือตรวจการณ์ศุลกากร เรือตรวจการณ์ประมง และเรือตำรวจน้ำ หมุนเวียนกันตรวจสอบและ งเฝ้าระวังเหตุ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้แจ้งเตือนให้กลับเข้าฝั่ง และสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที ลดความสูญหายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้จะได้มีการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวต่างๆ ต่อไป

อย่างไรก็ตามทางผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ยังได้มีการลงไปตรวจสอบและพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวดำน้ำ พร้อมเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยในการให้บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา