'บีทีเอส' รับมอบรถไฟฟ้าล๊อตใหม่ จุคนเพิ่ม-ทันสมัย-ประหยัดพลังงาน

'บีทีเอส' รับมอบรถไฟฟ้าล๊อตใหม่ จุคนเพิ่ม-ทันสมัย-ประหยัดพลังงาน

"บีทีเอส" รับรถไฟฟ้าขบวนแรกตามสัญญา ใหม่จาก "ซีเมนส์" โดยรถชุดแรกรองรับสายสุขุมวิท แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะให้บริการ ธ.ค. โดยขบวนล๊อตใหม่ ทันสมัย สะดวก ประหยัดพลังงาน และรองผู้โดยสารมากกว่าเดิม

เมื่อวันอังคารที่ 19 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีส่งมอบรถไฟฟ้าขบวนแรกตามสัญญาจัดหารถจำนวน 22 ขบวน (88 ตู้ ) ระหว่าง บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) กับบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี โดยมี พล ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน )หรือบีทีเอส นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) ผู้บริหารจาก Siemens Bozankaya ผู้แทนจาก บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด สื่อมวลชนที่ไปจากกรุงเทพ และสื่อมวลชนของตุรกี ท่ามกลางบุคคลในคณะรัฐบาลสาธารณรัฐตุรกีร่วมเป็นสักขีพยาน

สำหรับรถไฟฟ้าขบวนแรกนี้ เป็นขบวนรถในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาจัดหารถไฟฟ้า จำนวน 46 ขบวน 148 ตู้ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางปัจจุบันและส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการและคูคต โดยแบ่งออกเป็นการซื้อจาก บริษัทซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน และ บริษัท ซีอาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน มูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท

S__53526578

โดยที่ขบวนรถดังกล่าวจะใช้เสปคเดียวกันหรือดีกว่าขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบต่างๆที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตชั้นนำของโลก สำหรับขบวนรถ 22 ขบวนของซีเมนส์จะทำการออกแบบ และผลิตชิ้นส่วนต่างๆในเยอรมนี และออสเตรีย เป็นส่วนใหญ่ และนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับซีเมนส์ บริษัท Bozankaya เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นโรงงานผลิตยานพาหนะระบบราง และ ยานพาหนะระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อในยุโรป อนึ่งขบวนรถของบริษัทซีเมนส์ นี้ จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และ มีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นในขบวนรถ และเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของซีเมนส์ทุกประการ ขบวนรถไฟฟ้าจำนวน 22 ขบวนนี้ เมื่อดำเนินการส่งมอบและทดสอบเรียบร้อย จะถูกนำมาให้บริการในเส้นทางปัจจุบันและเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม 2561

S__53526582

สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท แบริ่ง – สมุทรปราการ นั้น ประกอบด้วยสถานีรวมทั้งสิ้น 9 สถานี โดยเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานีจาก สถานีแบริ่ง –สถานีสำโรง และอีก 8 สถานีที่จะเปิดให้บริการปลายปี 2561ประกอบด้วย สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกพฤกษา สถานีสายลวด และสถานีสุดท้ายคือ สถานีเคหะฯ

ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วง หมอชิต -สะพานใหม่ – คูคตนั้น อยู่ในระหว่างขั้นตอนการออกแบบงานระบบเดินรถ ( Railway System ) การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และ ศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งใหม่ ที่สถานีคูคต ระยะทางรวมทั้งสิ้น 19 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีรวมทั้งหมด 16 สถานี โดยคาดว่า โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยภายในปี 2562 และหลังจากนั้น จะเป็นช่วงของการดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ซึ่งบริษัทฯจะเป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงในส่วนต่อขยายนี้ ซึ่งมีแผนที่จะเข้าดำเนินงานก่อนในส่วนที่มีความพร้อม โดยสถานีแรกที่คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชน คือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว และเมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และ สายสีเขียว ช่วง หมอชิต - สะพานใหม่ –คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดเวลา

1_8

นายคีรี ระบุว่า การผลิตรถทั้ง 22ขบวนนี้ใช้เวลาในการผลิตที่สั้นกว่าการผลิต ตามปกติ เนื่องจากทกุฝ่ายเข้าใจถึงความต้องการในการใช้รถเพิ่มใน เส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสโดยเฉพาะการที่จะต้องผลิตให้ทันเปิด ให้บริการส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการใน เดือน ธ.ค.61

"ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไว้ณที่นี้โดยเฉพาะบริษัทซีเมนส์ และโบซันกายาที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักโดยแทบจะไม่มีวันหยุดเพื่อให้การผลิตแล้วเสร็จทันความต้องการใช้งานดังกล่าว ซึ่งมิเพียง ใช้เวลาสั้นเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งความเข้มงวดในเรื่องของ คุณภาพตามมาตรฐานของซีเมนส์ ทั้งนี้รถขบวนใหม่ ทันสมัย รองรับผู้โดยสารมากขึ้นเนื่องจากเอาเก้าอีบางสวนออก เหมือนรถไฟฟ้าในยุโรป" นายคีรี กล่าว

ทั้งนี้ รถขบวนแรกนี้หลังจากส่งมอบในแล้วจะขนส่งทางเรือไปยังประเทศไทยเพื่อทำการทดสอบบนเส้นทางจริงเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน เพื่อให้มั่นใจในคุณ ภาพก่อนนำไปให้บริการ และหลังจากนั้นจะ ทยอยส่งมอบขบวนรถที่เหลือไปยังประเทศไทยซึ่งจะเสร็จสิ้นช่วงต้นปีหน้า เพื่อให้สามารถเปิด ให้บริการส่วนต่อ ขยายไปสมุทรปราการได้ในเดือนธ.ค.2561

เขากล่าวว่า จากการที่ได้มาเห็นขบวนการผลิตและรถไฟฟ้าขบวนแรกที่แล้วเสร็จ ทำให้ผมมีความมั่นใจว่าทั้งบริษัทซีเมนส์และโบซันกายาจะสามารถทำการผลิตรถไฟฟ้าทั้ง 22ขบวนได้ตามกาหนดรวมถึงมีคุณภาพเป็นที่น่า ประทับใจเฉกเช่นเดียวกับรถของซีเมนส์ที่ใช้งานอยู่กว่า18ปีแล้วแต่ ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดี

ด้านนายอัศวิน กล่าวว่า กทม.หวังจะสร้างระบบไฟฟ้า ให้ครบทุกเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกประชากรในกทม.ที่หันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาจราจร โดยเฉพาะหน้า กทม.จะสร้าง 3 เส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นสายรอง เพื่อรองสายหลัก คือสายสีทอง เจริญนคร สายสีเทา วัชรพล โดยระยะแรก ถึง ทองหล่อง 19 กิโลเมตร และเส้นบางนา สุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเปิด ประมูล ได้ในปีหน้า โดยกทม.พร้อมสนับเอกชนที่จะมาลงทุนด้านนี้ ส่วนคอขวดสถานีสะพานตากสินได้หารือ กับ บีทีเอส แล้วที่จะมาลงทุนตรงนี้ เพื่อแก้ปัญหา ประชาชนที่ตกค้าง แออัด วันละเป็นหมื่นๆคน