'สมชาย' ลุยเวียดนามดูนโยบายลงทุน

'สมชาย' ลุยเวียดนามดูนโยบายลงทุน

รมช.อุตฯ ลุยเวียดนามศึกษาดูงานการพัฒนาอุตสาหกรรมและการลงทุนของนักธุรกิจไทย

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะผู้บริหาร สื่อมวลชนสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ศึกษาดูงานความก้าวหน้าและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรม การลงทุนของนักธุรกิจไทย ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การเดินทางมายังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 8 - 10 มิถุนายน 2561 เพื่อมาศึกษาดูงานความก้าวหน้าและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรม การลงทุนของนักธุรกิจไทยในเวียดนาม โดยได้เยี่ยมชมโรงงานด้านการผลิตอาหาร ซี.พี.เวียดนาม (C.P. Vietnam Corporation) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติไทยที่มีโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ จำนวน 2 โรงงาน ใช้เทคโนโลยีการผลิตอาหารที่ทันสมัยและปลอดภัย ในแต่ละปีบริษัท ซี.พี. เวียดนาม ได้แปรรูปอาหารทะเลและส่งออก ปริมาณ 20,000 ตัน ไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน และยุโรป เป็นต้น

ทั้งนี้รัฐบาลเวียดนามยังมีการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบให้ได้ถึง 25-30 ล้านตันต่อปี ภายในปี 63 ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาพลังงานชาติ ซึ่งบริษัท SCG ได้เข้าไปถือหุ้นในโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนาม โดยโครงการตั้งอยู่เมืองบาเหรี่ยะ-หวงเต่า คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 65 นอกจากที่บริษัท SCG ได้เข้าไปถือหุ้นในโครงการปิโตรเคมีของเวียดนามแล้ว บริษัทในเครือ อาทิ บริษัท TPC VINA Plastic & Chemical ที่ดำเนินธุรกิจผลิตในกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย ได้แก่ พลาสติก เส้นใยสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์ ตามโครงการส่งเสริมการลงทุนของเวียดนามด้วย

นอกจากนี้กลุ่มอมตะของไทย (Amata VN PCL) กับบริษัท ต่วน โจว ของเวียดนาม ได้มีการร่วมลงทุนเพื่อก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ฮาลอง จังหวัดไฮฟอง ทางตอนเหนือของกรุงฮานอย บนพื้นที่กว่า 4 พันไร่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมทั่วไปและกลุ่มไฮเทค และอมตะยังมีโครงการพัฒนา อีก 2 โครงการใหญ่ คือ โครงการอมตะ ซิตี้ ฮาลอง เพื่อรองรับการคมนาคมขนส่ง เชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ในตลาดจีนและทั่วโลก และโครงการอมตะ ซิตี้ ลองถั่น เพื่อพัฒนาพื้นที่และเปิดขายพื้นที่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค และออโตเมติก เป็นต้น

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ซึ่งการมาศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะนำข้อมูลที่ได้ไปบูรณาการในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ที่ไทยมีเป้าหมายจะเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลแปรรูปอันดับต้นของโลกเหมือนอย่างเช่นเวียดนาม และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ซึ่งเวียดนามได้สนับสนุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย ที่เป็นส่วนที่เหลือจากการผลิตเชื้อเพลิง นับว่าสามารถนำแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม มาใช้กับพัฒนาเคมีชีวภาพของไทยได้