สั่งให้ออกจากราชการ ดาบตร.พัทยาลวนลามสาวบนโรงพัก

สั่งให้ออกจากราชการ ดาบตร.พัทยาลวนลามสาวบนโรงพัก

ฟันไม่เลี้ยง! ดาบตำรวจพัทยาฉาว เรียกรับเงิน 20,000 แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว “สาวชัยภูมิ แจ้งความถูกชายแต่งกายคล้ายตำรวจเรียกรับเงินเมาแล้วขับ-หอมแก้มบนโรงพัก ยื่นข้อเสนอเรียกเงิน 2 หมื่นเจ้าตัวยอมจ่าย ก่อนถูกลวนลาม เร่งตรวจวงจรปิดหาตัว” นั้น ได้รับรายงานจาก สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2571 เวลาประมาณ 03.30 น. ผู้แจ้งได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง และเกิดเฉี่ยวรถคู่กรณีจอดอยู่ข้างทาง พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุและออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบ ผู้แจ้งและรถยนต์คู่กรณีอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวผู้แจ้งและญาติคู่กรณีมาที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินการสอบสอน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ให้คู่กรณีไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทดสอบแอลกอฮอล์ ของคู่กรณีและแจ้งว่าผลตรวจของผู้แจ้ง มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจึงนำตัวผู้แจ้งเข้าไว้ในห้องควบคุมตัว จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณหน้าห้องควบคุมมาเรียกรับเงินจากผู้แจ้ง จำนวน 20,000 บาท เพื่อมิให้ถูกดำเนินคดี และยังได้กอดและหอมแก้มผู้แจ้งด้วย ผู้แจ้งจึงให้บัตร เอทีเอ็ม พร้อม รหัส ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปกดเงินจำนวน 20,000 บาท และมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวผู้แจ้งออกมา

ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว โดยขณะนี้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้มีคำสั่ง สภ.เมืองพัทยา ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2561 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และทำการตรวจสอบด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พร้อมทั้งได้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 1 นาย ตามที่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงและสามารถตอบคำถามสังคมได้ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนและกระทำความผิด ตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่