วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (31 พ.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (31 พ.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบทะยานกว่า 2% หลังตลาดคลายกังวลต่อข่าวการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปค

+ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่า 2% หลังธนาคารกลางรัสเซียออกโรงเตือนว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงจากนโยบายการปรับเพิ่มกำลังการผลิตอาจส่งผลกระทบให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินของรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ตลาดวิตกเกี่ยวกับข่าวที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบอาจพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตอีกราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชยกับอุปทานน้ำมันดิบที่หายไปจากเวเนซุเอลา และปริมาณการส่งออกของอิหร่านที่อาจลดลงหลังถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ทั้งนี้ ต้องจับตาการประชุมโอเปควันที่ 22 มิ.ย. ณ กรุงเวียนนา ที่กลุ่มผู้ผลิตจะทบทวนนโยบายและตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางการผลิตน้ำมันดิบ

+ กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคนำโดยซาอุดิอาระเบีย ยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ และแสดงความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ของข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว ซึ่งได้ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินปรับลดลง และผลักดันให้ตลาดเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบยังคงร่วมมือกันต่อไปในระยะยาว เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของตลาด แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่ต้องปรับเพิ่มกำลังการผลิตในสถานการณ์ที่ปริมาณน้ำมันดิบขาดแคลน ผู้ผลิตจะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระมัดระวัง

- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 25 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 434.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับลดลงราว 0.13 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกจากจีนและไต้หวันที่เข้ามาสู่ตลาดเอเชีย อบ่างไรก็ดี ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูกาลขับขี่ และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นส่วนใหญ่เริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ หลังจากช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น รวมถึงปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนที่เพิ่มสูงขึ้น

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74-79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • จับตาการประชุมของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปทานที่ตึงตัวหรือไม่ หลังปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วปรับลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับเหนือค่าเฉลี่ย 5 ปี เพียงแค่ 9 ล้านบาร์เรล รวมถึงอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้นจากเวเนซุเอลาที่กำลังการผลิตปรับลดลงต่อเนื่อง และอิหร่านที่เผชิญกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคยังคงเดินหน้าปรับลดลงกำลังการผลิต
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือระดับต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐฯ ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999