สตช.-คลัง จับมือ กวาดล้างนายทุนดอกเบี้ยโหด จับตา 3 กลุ่มใหญ่ 762 รายชื่อ ระบุ ไร้ทหาร-ตำรวจ พัวพัน
วันที่ 16 พฤษภาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายหนี้นอกระบบ โดยมี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาการกู้หนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมกับบูรณาการอย่างยั่งยืนกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง จากการตรวจสอบเจ้าหนี้นอกระบบพบว่ามีประมาณ2-3กลุ่มใหญ่ เช่น ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี/ภาคตะวันออกก็จะมีอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง จ.ชลบุรี /และอีกกลุ่มคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล
ด้าน พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายชื่อจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ที่รวบรวมไว้ เบื้องต้นมีจำนวน 762 รายชื่อ ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยทางการเฝ้าระวัง แต่จากการตรวจสอบไม่มีทหาร ตำรวจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ยอมรับว่ามีการดำเนินคดีแล้วบางจังหวัดที่มีพฤติกรรมการทวงหนี้โหด ดอกเบี้ยสูง ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีการรวบรวมรายชื่อ บางรายชื่อมีข้อมูลตรงกันกับกระทรวงการคลัง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ บางรายมีการหลบหนีออกนอกพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังตรวจสอบกันอย่างจริงจัง มีการระดมกวาดล้าง จับกุมต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นการทวงหนี้โหด สามารถโทรมาที่ศูนย์รับแจ้งของปคบ.หมายเลข 1135 ได้
ขณะที่ นายบุญชัย จรัสแสง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงได้พยายามประสานกับทุกหน่วยเพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามนโยบายหลักๆ 5 มิติ ประกอบด้วย การดำเนินกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ / การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับประชาชนทั่วไป แทนการไปกู้หนี้นอกระบบ /การออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการ นายทุน ปล่อยกู้ให้ประชาชน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการ นายทุน 470 ราย ยื่นขอใบอนุญาต และได้อนุญาตแล้ว 348 ราย /ขอความร่วมมือกับ ตร. ประสานระดับท้องถิ่นในการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบ โดยมีอัยการคุ้มครองสิทธิ์ประชาชน เพิ่มช่องทางให้ประชาชนขอความเป็นธรรมได้หลายช่องทาง ตลอดจนดำเนินการตามนโยบายเพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ โดยสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ ในการหารายได้เพิ่มเติมในอนาคตให้ครบวงจร
