เอเอ็มดีส่ง'ไรเซ็น โปร'รุกพีซีองค์กร

เอเอ็มดีส่ง'ไรเซ็น โปร'รุกพีซีองค์กร

ท้าชนอินเทล มั่นใจราคาคุ้มค่า ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า ชูจุดต่างประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานเพื่อธุรกิจ มั่นใจเดินเกมถูกทาง ธุรกิจเติบโตดีต่อเนื่อง

นายจิม แอนเดอร์สัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอมพิวติ้งและกราฟฟิก เอเอ็มดี กล่าวว่า เอเอ็มดีมีแผนบุกหนักตลาดซีพียูสำหรับพีซีองค์กรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เอเอ็มดี ไรเซ็น โปร (AMD Ryzen PRO)” ครอบคลุมสำหรับโน้ตบุ๊คและเดสก์ท็อปองค์กร

ทั้งนี้ พันธมิตรที่เตรียมนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดประกอบด้วย 3 แบรนด์ชั้นนำได้แก่ เดลล์ ในซีรีส์ ละติจูด, เอชพี อีลีท, รวมถึงเลอโนโว ธิงค์แพท นับได้ว่าครั้งนี้สินค้าที่วางจำหน่วยไปทั่วโลกมีความกว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเอ็มดี

ซีพียูดังกล่าวยังมาพร้อมกราฟฟิกระดับไฮเอนด์ตระกูล “เรดิออน เวก้า (Radeon Vega)” ติดตั้งในตัว ด้วยบริษัทต้องการเพิ่มทางเลือกที่เหนือกว่า มาพร้อมนวัตกรรม ขณะเดียวกันผลักดันให้พันธมิตรโออีเอ็มสามารถนำเสนอสินค้าระดับพรีเมียมสู่ตลาดได้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม

“พันธกิจของเราคือการนำเสนอซีพียูที่มีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ รวมถึงทางเลือกที่มากกว่าให้กับผู้บริโภค จากปีที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จในตลาดคอนซูเมอร์ วันนี้มีความพร้อมเต็มที่ที่จะลุยตลาดคอมเมอร์เชียลเต็มรูปแบบ”

เอเอ็มดีเชื่อว่า การเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรดังกล่าวจะเป็นอีกก้าวสำคัญซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความจริงจังที่จะเข้าไปตอบสนองความต้องการลูกค้าแบบครบวงจรในตลาดคอมเมอร์เชียล

สำหรับความโดดเด่น มาพร้อมความสามารถที่ทำให้การใช้งานแบตเตอรีทำได้สูงสุดถึง 16 ชั่วโมง ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่สูง กราฟฟิกเทคโนโลยีเรดิออนซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก มากกว่านั้นออกแบบมาให้รองรับกับระบบชาร์จเร็ว การใช้งานทุกระดับสำหรับองค์กร มัลติมีเดียต่างๆ รวมไปถึงเทรนด์การใช้งานยุคใหม่ที่พีซีถูกนำไปใช้ทั้งสำหรับการทำงานและส่วนตัวอย่างแยกกันไม่ออก

นอกจากนี้ ด้วยเป็นการใช้งานสำหรับองค์กร ทางเอเอ็มดีจึงให้ความสำคัญอย่างมากกับระบบซิเคียวริตี้โดยมาภายใต้สถาปัตยกรรม “เซ็น” ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลทางธุรกิจจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีมาตรฐานระดับซิลิคอน

ปัจจุบันในตลาดองค์กรประกอบด้วย 3 สายผลิตภัณฑ์หลักคือ ซีพียู “ไรเซ็น โปร”, กราฟฟิก “เรดิออน” และเซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ “อีพิค(EPYC)” ครอบคลุมตั้งแต่การใช้งานทั่วไป สำหรับมือโปร ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ เทียบกับคู่แข่งอย่างอินเทลผลิตภัณฑ์ของเอเอ็มดีให้ทั้งความคุ้มค่าการลงทุนที่มากกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง อีกข้อดีเปิดทางให้อัพเกรดได้แบบยืดหยุ่น

เอเอ็มดีระบุว่า 3 ปีที่ผ่านมาผลประกอบการทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นมาโดยตลอด จากปี 2558 มีรายได้ 4 พันล้านดอลลาร์ ปี 2559 ทำได้ 4.3 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อปี 2560 เพิ่มมาถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะนี้ยังพบว่าทั้ง 3 สายผลิตภัณฑ์มีทิศทางเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง 

ส่วนของการทำตลาดประเทศไทย มีแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรและเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าองค์กรให้ได้มากขึ้น ตลาดหลักเช่นสพฐ. รวมถึงองค์กรเอกชน แนวทางการขายเน้นเชิงโซลูชั่นไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์