หุ้นเทคโนโลยีทะยานหนุนหุ้นวอลสตรีทปิดบวก

หุ้นเทคโนโลยีทะยานหนุนหุ้นวอลสตรีทปิดบวก

หุ้นทุกกลุ่มต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิลทะยานขึ้นมากที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำคือ เฟซบุ๊ก แอ๊ปเปิ้ล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ต่างก็ปรับตัวขึ้น

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (10 พ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้และได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ทะยานขึ้น โดยเฉพาะหุ้นแอ๊ปเปิ้ลทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์  เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 24,739.53  จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.94% ปิดที่ 2,723.07 จุดและดัชนีแนสแด็กบวก 0.89% ปิดที่ 7,404.98 จุด

หุ้นทุกกลุ่มต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิลทะยานขึ้นมากที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำคือ เฟซบุ๊ก แอ๊ปเปิ้ล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ต่างก็ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอ๊ปเปิ้ลทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 0.3% หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งการปรับตัวต่ำกว่าคาดของดัชนีซีพีไอในเดือนเม.ย.มีสาเหตุจากการชะลอตัวของค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาสุขภาพ แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซิน และค่าเช่าบ้านดีดตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค.และหากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีซีพีไอพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพื้นฐานดีดตัว 2.1% ในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวขึ้นเท่ากับเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 48 ปี สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 218,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 5,500 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 เม.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 30,000 ราย อยู่ที่ระดับ 1.79 ล้านราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง ลดลง 22,000 ราย สู่ระดับ 1.81 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2516