'บรรยิน' ขึ้นศาลคดีโอนหุ้น 'เสี่ยชูวงษ์'

'บรรยิน' ขึ้นศาลคดีโอนหุ้น 'เสี่ยชูวงษ์'

อัยการเตรียมพยาน 70 ปาก นำสืบปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ ส่วนทั้งสามยันให้การสู้คดี มีพยาน 15 ปาก เริ่มสืบนัดแรก ก.ย.นี้จบพยานจำเลย 20 ก.พ.ปีหน้า

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 เม.ย.61 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊งหรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้าน หมายเลขดำ อ.305/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ , น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคไทยรักไทย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารและเอกการสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 , 265 ,268 จากกรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊งหรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมูลค่าร่วม 300 ล้านบาท ก่อนนายชูวงษ์ เสียชีวิตในวัย 50 ปี เมื่อช่วงปี 2558

โดยอัยการ ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ.61 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสามได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาทุกคน โดย น.ส.กัญฐณาหรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1 ประกัน 5 ล้านบาท , น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ จำเลยที่ 2 ประกัน 3 ล้านบาท และ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 ประกัน 5 ล้านบาท ซึ่งศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามออกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ขณะที่วันนี้ จำเลยทั้งสาม มาศาลตามนัด และเมื่อศาลอ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสามฟังแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยมีแนวทางการต่อสู้คดีการโอนหุ้นนั้นเป็นไปโดยชอบ ไม่ได้ปลอมแปลงเอกสาร และเมื่อเริ่มการตรวจบัญชีพยานหลักฐาน อัยการโจทก์ ก็ยื่นบัญชีพยานบุคคลที่จะสืบรวม 76 ปาก เสนอศาลซึ่งส่วนใหญ่นำสืบบันทึกการเงิน ส่วนจำเลยทั้สาม นำสืบพยาน 15 ปาก โดยศาลกำหนดนัดให้อัยการโจทก์ สืบพยาน 20 นัด ส่วนจำเลยทั้งสามให้สืบพยาน 7 นัด ทั้งนี้ให้สืบพยานโจทก์จำเลยต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 วัน ทุกวันอังคารและพุธ ซึ่งศาลเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 4 ก.ย.นี้ และกำหนดนัดสุดท้าย 19 ธ.ค.61 ส่วนนัดสืบพยายจำเลยทั้งสาม จะเริ่มวันที่ 22 ม.ค.62 และนัดสุดท้ายวันที่ 20 ก.พ.62 เวลาสืบพยานก็ตั้งแต่ 09.00 - 16.00 น.

นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์และผู้จัดการมรดกสามี ในฐานะผู้เสียหายก็ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เพื่อติดตามกระบวนพิจารณาคดีด้วย โดยนายเอนก ทนายความของครอบครัวนายชูวงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายยังไม่ได้ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ซึ่งคิดว่าจะรอให้คดีที่ครอบครัวยื่นฟ้องเองได้ไต่สวนมูลฟ้องเสียก่อน เพราะในคดีกังกล่าวก็มีผู้ที่ถูกฟ้องมากกว่าที่อัยการได้ฟ้องไว้เป็นคดีนี้ ซึ่งคดีที่ยื่นฟ้องไปเองในข้อหาเดียวกันคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนซึ่งหากได้ผลเป็นเช่นไร จึงจะนำมาเป็นเเนวทรงพิจารณาการยื่นร้องขอเป็นโจทก์ร่วมเเละขอรวมสำนวนเข้ากับคดีนี้ต่อไป ส่วนคดีอื่นๆที่เราได้ยื่นฟ้องไปเองในคดีอาญาร่วมกันฆ่า นายชูวงษ์ เเละคดีเเพ่งที่ขอเรียกทรัพย์สินที่เป็นหุ้นคืน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ขณะที่นางศิริรัตน์ ภรรยานายชูวงษ์ กล่าวถึงความรู้สึกว่าดีใจที่คดีได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลเเล้ว จากนี้ก็จะติดตามกระบวนการต่อไป

ด้านอดีตพริตตี้ และอดีตโบรกเกอร์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน วันนี้ ก็ต่างคน ต่างเดินทางมาศาล โดยทั้งสามก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆสื่อมวลชน