ผู้พิพากษาชี้ใครบอกยา 'หมอแสง' ยับยั้งมะเร็งไม่ได้ ต้องรับผิดชอบ

นายวิชาญ ชำนาญกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้นจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะผู้รับถ่ายทอดสูตรสมุนไพรรักษามะเร็งจากนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง กล่าวว่า จากกรณีที่รองอธิบดีกรมการแพทย์มาแถลงข่าวว่ายาแคปซูลของหมอแสงไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดแก้ว ถ้าไม่สามารถยับยั้งในหลอดแก้วได้เท่ากับว่าไม่มีประสิทธิภาพเลย เราแจกยาต่อไปก็เท่ากับว่าทำให้คนป่วยกินของไม่มีคุณภาพสมควรหยุด แต่ถ้ายามีประสิทธิภาพอยู่บ้าง เช่น ที่ทดลองในเซลล์มะเร็ง 7 อย่าง มีประสิทธิภาพ 15% 28% 32% แต่คุณแถลงบอกว่าไม่มีประสิทธิภาพเลย ถ้าประชาชนไม่ได้รับยา คนที่แถลงต้องรับผิดชอบด้วย

จากกรณีที่มีการแถลงว่า สมุนไพรหมอแสง ไม่มีผลในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในเรื่องนี้ ตัวยาของนายแสงชัยที่รู้ส่วนผสมมีรำข้าว 80% รำข้าวไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้แน่นอน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ถั่งเช่า แน่นอนไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ แต่ที่ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้คือเห็ดกระถินพิมาน แต่ปริมาณเห็ดกระถินพิมานต้องเป็นปริมาณที่สามารถบริโภคได้ ถ้าบริโภคไปเข้มข้นคนที่บริโภคก็จะถึงแก่ความตาย เพราะเป็นเห็ดมีพิษ

ฉะนั้นต้องใช้เวลาหมักบ่มถึง 6 เดือนแล้วมาผสมกับรำข้าว ถึงสามารถบริโภคได้ ส่วนประเด็นเรื่องไม่สามารถยับยั้งเซลมะเร็งได้เลย เซลมะเร็งกับสารบ่งชี้มะเร็งน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 ผมได้ส่งเอกสารให้ ดร.ภญ. มณฑกาญจน์ ธีรชัยสกุล หัวหน้าคณะวิจัยเกี่ยวกับสารบ่งชี้มะเร็งลดลง 47 คน มีหลักฐานการรับรองของแพทย์เรียบร้อย ไม่ทราบว่าจะนำมารวมกับการแถลงค่ามะเร็งในหลอดแก้วหรือไม่ คนที่มาแถลงคืออธิบดีกรมการแพทย์ ที่ผมเห็นเอกสารในที่ประชุมไม่มีชื่อรองณรงค์ ไม่ทราบว่าท่านแถลงครบข้อมูลหรือเอาข้อมูลมารอบด้านหรือไม่

กรณีที่เปรียบเทียบระหว่างสมุนไพรคุณแสงชัยกับสารเคมีหลายคนข้องใจว่า สารเคมีคืออะไร เท่าที่ทราบสารเคมีกับคีโมนำเข้าจากต่างประเทศ ในขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ผลิต นำเข้ามาปีละ 150,000 ล้านบาท และกรมการแพทย์หรือองค์การเภสัชกรรมจะร่วมกับ ปตท. มาผลิตในเมืองไทยปี 2562 ก็ไม่ทราบว่าผู้ที่มีรายชื่อหรือผู้เก่งกาจก่อนหน้านั้นทำไมไม่ผลิต ทำไมต้องสั่งเข้ามา แต่ภูมิปัญญาของหมอแสงเป็นสมุนไพร เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน และคนมากินบอกว่าดี โดยการันตีจากคนกินทั่วไปภูมิปัญญาไทยสมุนไพรไทยทีมวิจัยน่าจะมีคนมีความรู้ด้านต้นไม้ด้านสมุนไพรว่าต้นไม้อย่างนี้มีคุณสมบัติอย่างไรมีองค์ประกอบอย่างไรมีสารอะไรบ้างดูแล้วทีมวิจัยไม่มีมีแต่แพทย์ที่มีความรู้ด้านแพทย์สมัยใหม่ทำให้การวิจัยระหว่างสมุนไพรกับเคมีไม่มีทางสู้กันได้