'พาณิชย์'ลุยตลาดอิสราเอล เล็งหาช่องทางผลักดันส่งออกสินค้า

'พาณิชย์'ลุยตลาดอิสราเอล เล็งหาช่องทางผลักดันส่งออกสินค้า

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แนะผู้ส่งออกไทยจับตาตลาดอิสราเอล เล็งหาช่องทางผลักดันส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งโรงแรมที่พัก สปาและผลิตภัณฑ์ อาหาร และของที่ระลึก ป้อนตลาด รองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศรัฐอิสราเอล ถึงโอกาสการส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในตลาดอิสราเอล เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งอาคารและโรงแรม ผลิตภัณฑ์สินค้าสปาและบริการสปา เป็นต้น เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในอิสราเอลที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวของอิสราเอล ระบุว่า ในปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในอิสราเอล 3.6 ล้านราย เพิ่มขึ้น 25% และสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของอิสราเอลประมาณ 1.87 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ 7 แสนราย, รัสเซีย 3.7 แสนราย, ฝรั่งเศส 2.84 แสนราย, เยอรมนี 2.02 แสนราย, อังกฤษ 1.85 แสนราย, ยูเครน 1.37 แสนราย, จีน 1.05 แสนราย,อิตาลี 9.3 หมื่นราย, โปแลนด์ 8.5 หมื่นราย และแคนาดา 7.5 หมื่นราย

สำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในอิสราเอล พบว่า กว่า 59% เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นครั้งแรก และในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 25% ระบุว่ามาเที่ยวด้วยเหตุผลทางศาสนา, 23% ระบุว่า เดินทางมาเที่ยวและปืนหน้าผา, 10% ระบุว่า เดินทางมาผักผ่อนหย่อนใจ, 24% เดินทางมาเยี่ยมญาติพี่น้อง และ 11% เดินทางมาติดต่อธุรกิจ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยว 30% เดินทางผ่านบริษัททัวร์ และ 64% เดินทางมาด้วยตัวเอง และ 6% ซื้อแพกเกจทัวร์

"จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น กรมฯ มองว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยที่จะพิจารณาหาช่องทางในการส่งสินค้าและบริการออกไปยังอิสราเอล เพื่อรองรับภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ที่พัก สปา รวมถึงอาหาร และสินค้าของที่ระลึก ถือเป็นสินค้าที่มีโอกาสสูงมากในการเข้าไปทำตลาด" นางจันทิรากล่าว

จากมูลค่าการค้าของไทยและอิสราเอล ปี 2560 มีมูลค่า 44,327 ล้านบาท (เป็นการส่งออก 23,427 ล้านบาท และนำเข้า 20,900 ล้านบาท) ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้า 2,527 ล้านบาท จึงยังมีช่องทางในการทำการค้ากับประเทศนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้สูงขึ้นได้ในอนาคต

นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2561 กรมฯ จะได้จัดงานแสดงสินค้า STYLE โดยที่รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครบครันที่สุด รวม 3 งานเทรดแฟร์สุดยิ่งใหญ่มาไว้ในงานเดียวกัน ซึ่งรวมศักยภาพสินค้าส่งออกของกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ 5 กลุ่ม กลุ่มแฟชั่น เครื่องหนัง ของขวัญ ของใช้และของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ระหว่างวันที่ 19-23 เมษายน 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ ผู้ผลิต รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายตรง 1169 หรือเว็ปไซต์กรมฯ www.ditp.go.th