“หมอบุญ” ยกโมเดลเมืองสูงวัย บุกจีน..!!

“หมอบุญ” ยกโมเดลเมืองสูงวัย บุกจีน..!!

กลยุทธ์ถอดความสำเร็จโครงการ จิณณ์เวลบีอิ้งเคาน์ตี้ เมืองไทย เบิกทาง“ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” โตยั่งยืนในจีน “หมอบุญ วนาสิน” ผู้ก่อตั้ง THG เชื่อเช่นนั้น กับขุมทรัพย์ใหม่!!ปัดฝุ่น“ศูนย์คนชรา”ทิ้งร้างในจีนกว่าพันรุกสู่เมืองสุขภาพสูงวัย 

การเคลื่อนไหวของกลุ่ม ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเมืองไทย” หลายรายในช่วงที่ผ่านมา ประกาศขยายการลงทุนรองรับเทรนด์การเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ” (Aging society) ของโลกรวมถึงในไทย ที่ประเมินกันว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ไทยจะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) คิดเป็น 20% หรือ ทุกๆ ประชากร 5 คน จะมีผู้สูงอายุ 1 คน

หนึ่งในนั้นคือ โรงพยาบาลธนบุรี” ของ นายแพทย์บุญ วนาสิน” ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG  ที่เปิดตัวโครงการใหญ่ภายใต้ชื่อ จิณณ์เวลบีอิ้งเคาน์ตี้(Jin Wellbeing County) เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณแห่งแรกในไทย บนเนื้อที่ 140 ไร่ ย่านรังสิต  โดยเฟสแรกใช้งบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท และจะทยอยพัฒนาต่อเนื่องอีก 2 เฟส มีวงเงินรวมโครงการกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทในระยะ 5 ปี โดยเฟสแรกจะเปิดให้เข้าพักอาศัยได้ในปลายปีนี้

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ THG  ร่ายยาวถึงแผนธุรกิจให้ “กรุงเทพธุรกิจ Biz Week” ฟังว่า เมื่อเทรนด์ของคนทั่วโลกและเมืองไทยกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงอายุ หากกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรียังยึดติดอยู่กับการดำเนินธุรกิจรูปแบบเดิมๆ โอกาสการเติบโตยั่งยืนในอนาคตย่อมยากขึ้น 

กลายเป็นที่มาของโครงการระดับหมื่นล้านดังกล่าว !! 

ไม่เฉพาะการลงทุนในไทย แผนในระยะ 3-5 ปีจากนี้ (2561-2565) เครือโรงพยาบาลธนบุรี จะโฟกัสการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน เมียนมา เวียดนาม เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทยมีคู่แข่งจำนวนมาก ดังนั้น หากต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดดตลาดต่างประเทศจึงเป็นคำตอบ 

แต่จะไปโดยเกาะเทรนด์โลก คือ สังคมสูงวัย เขาย้ำ 

หากโครงการใดศึกษาแล้วพบว่า มีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ที่ 20% ขึ้นไป ถือเป็นโอกาสเข้าไปลงทุนได้

ยิ่งเฉพาะในเมืองจีน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกกว่า 1,300 ล้านคน ขณะที่นักวิจัยฝ่ายเศรษฐศาสตร์ประชากรและแรงงานของสถาบันสังคมศาสตร์จีน(CASS) รายหนึ่ง กล่าวว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว โดยจำนวนประชากรผู้สูงอายุ ของจีนได้คิดเป็น 1ใน5 ของประชากรผู้สูงอายุของโลก

หมอบุญ ระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปลงทุนร่วมกับพันธมิตรจีน นั่นคือ บริษัท WEGO Holding Company Limited จัดตั้งบริษัท Weihai Thonburi Healthcare Investment Company Limited ในจีน ด้วยทุนจดทะเบียน 230 ล้านหยวน (1.25 พันล้านบาท) เมื่อ1 เม.ย.2559 เพื่อประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ภายใต้ชื่อ Welly Golden Bay Hospital ซึ่งเปิดดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี

ทว่า ตอนนี้ในเมืองจีนสิ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษ นั่นคือ โครงการศูนย์คนชรา” ที่มีการปล่อยทิ้งร้าง กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศจีน” โดยบริษัทมีแผนจะยกโมเดลโครงการ จิณณ์เวลบีอิ้งเคาน์ตี้ ในเมืองไทย ไปวางไว้ที่ประเทศจีน !!!

หลังจากที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลจีนให้เงินก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ไม่มีคนบริหารโครงการ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมของศูนย์คนชราดังกล่าวทรุดโทรม ซึ่งปัจจุบันพันธมิตรที่เมืองจีนต้องการให้บริษัทเข้าไปฟื้นฟูโครงการดังกล่าวให้ ซึ่งถือเป็นโอกาสในขยายธุรกิจบริการสุขภาพในจีน ซึ่งน่าจะเห็นรูปธรรมในการดำเนินการในเร็ววันนี้ 

หากเราประสบความสำเร็จในเมืองจีนและทำธุรกิจมีกำไร เราไม่ใช่รวยแค่ระดับร้อยล้าน แต่กำลังพูดถึงระดับแสนล้าน ตอนนี้มีคนสนใจชวนเราไปร่วมเป็นพันธมิตรเยอะมาก แต่ติดอยู่ที่เราต้องการเพียงเข้าไปบริหารอย่างเดียวยังไม่อยากร่วมทุนด้วย"

ขณะที่ ประเทศเมียนมา” มีแผนจะขยายการลงทุนโรงพยาบาลเฟส 2 คาดว่าใช้เงินลงทุนหลัก ร้อยล้านบาทหลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น Ga MonePwint (GMP) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศสร้างโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital เฟสแรกปี 2558 ในเมืองย่างกุ้งและคาดว่าจะเปิดบริการภายในเดือน มิ.ย.ปีนี้ จำนวน 200 เตียง

สำหรับโรงพยาบาลในเมียนมา หมอบุญเล่าว่า มีต้นทุนที่ต่ำกว่าอีกหลายประเทศขณะที่ความต้องการโรงพยาบาลยังมีมาก  ทำให้คาดว่าโครงการจะถึงจุดคุ้มทุนได้เร็ว

เมื่อก่อนเราคิดว่าลงทุนแค่นั้นก็พอ แต่หลังจากเรามีทีมหมอประมาณ 30 คนและมีคนไข้รับการรักษาวันละ 50 คน รวม 1,500 คนต่อวัน แค่ admit (นอนพักรักษาตัว) 5% หรือคิดเป็นคนไข้ราว 75 คนต่อวัน เพียง 3 วัน โรงพยาบาลเราก็เต็มแล้ว

ประเทศเวียดนาม” ปัจจุบันบริษัทเข้าไปรับบริหารจัดการโรงพยาบาลในเวียดนาม 1 แห่ง ซึ่งอนาคตมีโอกาสจะเข้าไปถือหุ้นในโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย เพียงแต่ตอนนี้รอดูนโยบายการพัฒนาโครงการว่ามีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินการหรือไม่ ซึ่งลักษณะการลงทุนจะคล้ายๆ กับการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในโรงพยาบาลเมียนมา

รวมถึงปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาเป็น “ที่ปรึกษาและรับบริหารโรงพยาบาลในต่างประเทศ”เพิ่มเติมอีก ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต โดยขณะนี้บริษัทรับบริหารโรงพยาบาลในซาอุดิอาระเบีย และลาว เป็นต้น

สำหรับแผนการลงทุน ในประเทศ”  หมอบุญเล่าว่า มีแผนการลงทุนสร้างอาคารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการของ โรงพยาบาลธนบุรี และ โรงพยาบาลธนบุรี 2 และมีแผนขยายศูนย์หัวใจในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง

โดยไตรมาส 2 ปีนี้ จะลงทุนขยายโรงพยาบาลธนบุรีและโรงพยาบาลธนบุรี 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 555 ล้านบาท แบ่งเป็น โรงพยาบาลธนบุรีจะก่อสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่สามารถรองรับรถเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 คัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท และโรงพยาบาลธนบุรี 2 จะก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอาคารผู้ป่วยใน (อาคาร 3) เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการผู้ป่วย ใช้เงินลงทุนประมาณ 435 ล้านบาท คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563

ขณะเดียวกัน จะขยายธุรกิจศูนย์หัวใจเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งในต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่ดำเนินการรับจ้างเหมาบริหารศูนย์หัวใจให้แก่โรงพยาบาล 3 แห่งทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลธนบุรี 2 โรงพยาบาลภัทร

ในประเทศเราตั้งเป้าหมายมีคนไข้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี บริหารความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ

ส่วนการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) คาดจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งศูนย์ตรวจรักษาเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยนอก และห้องพักผู้ป่วยในเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากโรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลในเครือข่าย และ โรงพยาบาลอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงโดยจะเปิดบริการจำนวน 50 เตียง และกลางปี 2562 จะเพิ่มเป็น 160 เตียง

ผู้ก่อตั้ง THG” บอกด้วยว่า บริษัทยังอนุมัติลงทุนในหุ้น บจก.ธนราษฎร์ทุ่งสง (โรงพยาบาลธนบุรี ทุ่งสง) จำนวน 55-60% มูลค่าไม่เกิน 240 ล้านบาท และอนุมัติซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนถนนประชาอุทิศ มูลค่า 250 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการธนบุรี ซีเนียร์ โฮม (Thonburi Senior Home)

โดยโรงพยาบาลธนบุรีทุ่งสง ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 มีผู้ก่อตั้งเป็นสมาชิกและผู้บริหารเครือข่ายโรงพยาบาลธนบุรี อาทิ โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรีชุมพร โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ชื่อว่า “โรงพยาบาลธนบุรีทุ่งสง” จังหวัดนครศรีธรรมราช คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2562

ปัจจุบัน บจก. ธนราษฎร์ทุ่งสง มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีจำนวนหุ้นจำหน่ายทั้งหมด 40 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 10 บาท จำหน่ายและรับชำระค่าหุ้นสิ้นสุด ณ วันที่ 13 มี.ค.61 จำนวน 31.15 ล้านหุ้น เป็นเงิน 311.50 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้นคงเหลือรอจัดสรร จำนวน 8.85 ล้านหุ้น เป็นเงิน 88.5 ล้านบาท โดยที่บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นคงเหลือรอจัดสรร รวมถึงซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมจนกระทั่งมีปริมาณหุ้น 55-60%

ทั้งนี้ การจะเข้าซื้อหุ้นจาก“คิมคริสเตียน ว๊าซไฟท์” ซึ่งเป็นคู่สมรสของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท จำนวน 5.76 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.40% ที่หุ้นละ 10 บาท เป็นเงิน 57.6 ล้านบาท ซึ่งมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารไปเจรจาและเข้าซื้อหุ้นให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติ

ส่วนการเข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถนนประชาอุทิศ เพื่อพัฒนาเป็น โครงการ Thonburi Senior Home” ประกอบด้วย ที่ดินจำนวน 6 แปลง เนื้อที่ดินตามเอกสารสิทธิ์รวม 8-2-03.0 ไร่ พร้อมอาคารตึกสูง 11 ชั้น 1 อาคาร อาคารตึกสูง 16 ชั้น (หยุดก่อสร้างถึงชั้น 11) จำนวน 1 อาคาร และที่ดินจำนวน 2 แปลง พร้อมอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ในราคา 250 ล้านบาท จากบจก.ซุปเปอร์ พี แอนด์เอส ซึ่งคาดว่าจะโอนที่ดินพร้อมทรัพย์สินให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือน เม.ย.นี้

ดังนั้น บริษัทมีเป้าหมายรายได้ปี 2561 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มในปีนี้ อาทิ โครงการ จิณณ์ฯ โรงพยาบาลในเมียนมา และรายได้บริหารโรงพยาบาลในเวียดนาม เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ คาดเป็นไปตามเป้าหมาย จากความซับซ้อนของโรค ปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนผลประกอบการให้เติบโต 

--------------------------

เปิดเมืองต้นแบบวัยเกษียณ

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ THG เล่าให้ฟังว่า สำหรับโครงการ Jin Wellbeing County ถือเป็นเมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ กลุ่มเป้าหมายต้องการเจาะกลุ่มคนวัยเกษียณหรือผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณและคนโสดที่วางแผนการใช้ชีวิตในอนาคต ซึ่งโครงการตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน (รังสิต) ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ออกแบบโครงการและพื้นที่ในรูปแบบ Universal Design รองรับการใช้ชีวิตของคนวัยเกษียณอายุ

โครงการ Jin Wellbeing County ถือเป็นต้นแบบของโครงการเมืองแนวคิดใหม่ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุหรือผู้วางแผนใช้ชีวิตในวัยเกษียณ โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์ธุรกิจโรงพยาบาล (Integrated Healthcare) มาต่อยอดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีบริการดูแลรักษาสุขภาพอย่างครบวงจร ทั้งด้านอาหารการกินโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะแต่ละบุคคล การทำกิจกรรม การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีบริการ Nursing Home ในยามที่ต้องการผู้ช่วยหรือผู้ดูแล

รวมทั้งสร้างความ แตกต่าง” ด้วยการนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการดูแลผู้อยู่อาศัยแบบเฉพาะราย และนำระบบแจ้งตำแหน่งและแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินมาใช้งาน รวมถึงมีโรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพและกายภาพบำบัดภายในโครงการด้วย

โครงการเฟสแรกจะประกอบด้วย 1.อาคารชุดพักอาศัยแบบโลว์ไรส์7 ชั้น 2. Aged Care Center ประกอบด้วย ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบรายวันและพักค้างคืน คลินิกรักษาโรคทั่วไปและศูนย์กายภาพ และ -3.คลับเฮาส์ &เวลล์เนส เซ็นเตอร์ อาทิ สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สระธาราบำบัด ห้องนวดแผนไทย และกิจกรรมเสริมสุขภาพต่างๆที่ออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เราต้องการให้  Jin Wellbeing County เป็นต้นแบบของโครงการเมืองแนวคิดใหม่ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุหรือผู้วางแผนใช้ชีวิตในวัยเกษียณ โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์ธุรกิจโรงพยาบาล มาต่อยอดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีบริการดูแลรักษาสุขภาพอย่างครบวงจร” นพ.บุญ ย้ำความตั้งใจเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเฟสแรกจะเสร็จเรียบร้อยและพร้อมโอนในไตรมาส 4 ปี 2561 ประมาณ 60-70% (300 ยูนิต) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ยูนิตละ 5 ล้านบาท