ย้ำไทยเป็นกลาง ไม่ยุ่งสหรัฐบอมบ์ถล่มซีเรีย จับตารัสเซีย-จีน

ย้ำไทยเป็นกลาง ไม่ยุ่งสหรัฐบอมบ์ถล่มซีเรีย จับตารัสเซีย-จีน

กลาโหมสั่งทหารเกาะติดด่วน ไม่ยุ่งสหรัฐบอมบ์ถล่มซีเรีย ย้ำไทยเป็นกลาง จับตารัสเซีย-จีน เผยไม่คิดว่าจะเกิดสงครามครั้งใหญ่หรือสงครามเย็น

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้ตั้งเจ้าหน้าที่ชุดติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวด้านความมั่นคง ทันทีที่กองทัพของสหรัฐอเมริกาปฏิบัติการโจมตีทางทหารกับประเทศซีเรีย

พร้อมทั้งรับข้อมูลจากมิตรประเทศ เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าจะเกิดผลกระทบต่อคนไทยหรือไม่ รวมถึงการประเมินแนวโน้มของความรุนแรงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะ ทั้งนี้ในความรุนแรงขั้นต้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดการปะทุความรุนแรงมากขึ้น เพราะในประเทศซีเรียมีกองกำลังของทหารสหรัฐอเมริกาประมาณ 2,000-3,000 คน และคงใช้วิธีการโจมตีทางอากาศโดยทิ้งระเบิดไปใกล้กับจุดเก็บอาวุธเคมี ซึ่งที่มีความเป็นห่วงก็คือกรุงดามัสกัส ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียนั้น ตนคิดว่ายังไม่มี แต่ทั้งนี้เราต้องไม่ประมาทและต้องเฝ้าระวังพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะก็ทราบกันดีว่า ประเทศซีเรียได้รับการสนับสนุนจากประเทศรัสเซีย อีกทั้งประเทศจีนก็มีความใกล้ชิดกับประเทศรัสเซีย

นายปณิธาน ยังกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเราก็ต้องรอดูในเวทีสหประชาชาติว่าจะมีการพูดคุยในเรื่องนี้อย่างไร ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดสงครามครั้งใหญ่หรือสงครามเย็นนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ในส่วนของความตึงเครียดของสถานการณ์มีขึ้นแน่นอน แต่จะมีผลกระทบกับฝั่งยุโรปตะวันออกมากกว่าฝั่งเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ซึ่งยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เราก็ต้องดูให้ดี เพราะจุดยืนของประเทศไทยนั้นอยู่ตรงกลาง สำหรับการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกาที่อาคารเพนตากอนนั้น โดย พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมในระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย.นี้ยังคงเป็นไปตามเดิมและยังไม่มีการประสานขอยกเลิกมายังกระทรวงกลาโหมของไทย