เพิ่มอำนาจ 'ขรก.' ไม่ใช่คำตอบ โวยนักการเมืองเก่าตกเป็นจำเลยสังคม

เพิ่มอำนาจ 'ขรก.' ไม่ใช่คำตอบ โวยนักการเมืองเก่าตกเป็นจำเลยสังคม

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซัดเพิ่มอำนาจให้ "ข้าราชการ" ไม่ใช่คำตอบ โวยนักการเมืองเก่าตกเป็นจำเลยสังคม ปมนักการเมืองทุกคนเลวเหมือนกัน

เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์กับนายสุทธิชัย หยุ่น ถึงการปรับโฉมพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยย้ำถึงแนวคิดที่จะให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคโดยตรง แทนการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคเท่านั้น เบื้องต้นจะเขียนไว้ในข้อบังคับใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ตนยังพร้อมอาสาและตั้งใจเข้าแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อขับเคลื่อนพรรคและประเทศไปในทิศทางที่ดีที่สุด ส่วนกรณีที่มีกระแสการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ที่มีชื่อของนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค หรือ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ กรรมการที่ปรึกษาพรรค นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของพรรคที่เป็นประชาธิปไตย ที่ต้องมีการแข่งขันกัน อย่างไรก็ตามตนได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของนายชวน ซึ่งเขายืนยันว่าไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปได้ยากที่จะเปลี่ยนความคิดดังกล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการปรับบทบาทของพรรคให้เข้าถึงกระแสคนรุ่นใหม่ ว่า เป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้ใช้สิทธิครั้งแรก ประมาณ 7 ล้านคน และจากสภาพปัญหาการเมืองในอดีต ทำให้นักการเมืองเก่าตกเป็นจำเลยของสังคม ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำอย่างต่อเนื่องว่านักการเมืองทุกคนเลวเหมือนกัน จึงทำให้ความคิด และความต้องการสิ่งใหม่ที่เป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบความคิดใหม่ และแนวทางใหม่ ทั้งนี้การบริหารประเทศภายใต้รัฐบาล คสช. ที่ใช้การขับเคลื่อนประเทศตามระบบราชการ แม้จะมีกฎหมายใหม่เกิดขึ้น 200-300 ฉบับ แต่คือการเพิ่มอำนาจให้กับราชการ ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่คำตอบของอนาคต

"แม้ผมจะเป็นคนเก่า อยู่การเมืองมา 26 ปี แต่ผมไม่หยุดคิดเรื่องใหม่ๆ 3-4 ปีที่ผ่านมาผมเดินหน้าเข้าหาประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อหาโจทย์ที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้อย่างไร สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีโจทย์ที่ต้องแก้ไข ทั้งภาพของความไม่เด็ดขาด เป็นรัฐบาลผสมที่ล่าช้า และคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งผมต้องรีอินเว้นท์ สร้างพรรคให้เป็นสถาบันที่สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยให้โอกาสคนรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทในพรรคอย่างชัดเจน ทั้งคนที่เคยเป็นส.ส.หรือไม่เคยเป็นส.ส. ก็ตาม โดยล่าสุดมีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาคุยกับผมแล้ว 4-5 คน และผมตั้งใจจะขยายไปให้ถึง 10 คน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับพรรค ทั้งนี้พรรคต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลาก เพื่อสร้างกระแสของความต้องการสิ่งใหม่ ซึ่งผมยืนยันว่าประชาธิปัตย์มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยังกล่าวถึงนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม หลานชาย ว่า ถือเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ตนไม่ทราบมาก่อนว่านายพริษฐ์จะมีความสนใจงานด้านการเมือง เพราะไม่สนิทสนมกันมาก่อน แต่ยอมรับว่าช่วงที่นายพริษฐ์ เรียนจบได้คุยกับตนว่าอยากทำงานการเมือง ซึ่งตนระบุว่าขอให้ดูว่าอยากทำอะไร หาบทบาท และขวนขวายด้วยตนเอง ขณะที่แนวทางของคนรุ่นใหม่ที่เตรียมทำพรรคการเมืองอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ที่น่าแปลกใจว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผลักดัน เช่น การกระจายอำนาจ เป็นเรื่องที่เขาไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อได้พูดคุยกันทำให้เข้าใจถึงแนวทางและการผลักดันของพรรคที่เป็นแนวคิดใหม่