เปิด 8 สำรับอาหารไทย ตามรอยออเจ้า ละครบุพเพสันนิวาส

จากกระแสละครแห่งสยามประเทศ “บุพเพสันนิวาส” ที่โด่งดังจนเกิดกระแสอยุธยาฟีเวอร์ให้หลายๆ คนหันมาสนใจเกร็ดความรู้สมัยอยุธยา ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญ บุคคลสำคัญ เครื่องแต่งกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนพูดถึงกันมากที่สุดนั่นคือ “อาหารไทย” จนทำให้หลายๆ คนสนใจอยากจะลองชิมอาหารตามเมนูในละคร จนเกิดกระแสตามรอยเมนูอาหารไทยโบราณที่สืบทอดกันมา ด้วยประการฉะนี้ เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา จึงคัดสรรสำรับเด็ดทั้งคาวหวาน เปิดตำรับอาหารไทยที่ได้แรงบันดาลใจจาก “บุพเพสันนิวาส” ให้บรรดาออเจ้าได้ลองลิ้มชิมรสกันเถิดหนา

1.  ประเดิมสำรับแรกด้วยเมนูที่โด่งดังไปทั่วทั้งพระนคร หมูสร่ง  เนื้อหมูนุ่มปรุงรสเข้มข้น ห่อพันด้วยเส้น  หมี่ซั่ว ก่อนลงทอดให้กรอบนอกนุ่มใน จิ้มอาจาดรสหวานอมเปรี้ยว ของว่างตำรับออเจ้าที่พี่หมื่นติดใจ ไปชิมกันได้ที่ ร้านเฬอรส ชั้น 2  คริสตัล วีรันด้า ณ ศูนย์การค้า เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา

 

 

2. อีกสำรับเด็ด แกงไทยตำรับโบราณ คือ แกงคั่วปูใบชะพลู สีเหลืองนวล น่ารับประทาน นำหอมแดง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น พริกขี้หนู ผิวมะกรูด โขลกจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปผสมกับน้ำพริกแกงเขียวหวาน ผัดรวมกับน้ำกะทิตั้งไฟอ่อนๆ จนส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ จากนั้นเติมน้ำเปล่ารอให้เดือด ใส่ใบชะพลู ฉีกใบมะกรูด และเนื้อปูทะเลสดๆ ลงไป ปรุงรสให้หวาน เค็ม มัน เผ็ดกลมกล่อม โรยด้วยพริกชี้ฟ้า เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ถือเป็นแกงโบราณที่ได้คุณประโยชน์จากสมุนไพรไทย และผักพื้นบ้านอย่างใบชะพลูที่อุดมไปด้วยแคลเซียม รสเลิศ หากแม้นพี่หมื่นได้ลองลิ้มจะต้องติดใจ จาก ร้านเฬอรส

 

 

3. ตามมาด้วยอีกสำรับที่โด่งดัง ปูหลน ซึ่งเป็นเมนูเครื่องจิ้มสูตรต้นตำรับของร้านแม่ศรีเรือน อาหารไทยโบราณรสกลมกล่อม เครื่องแน่น หอมกะทิ กินคู่กับผักสดเพิ่มคุณค่า เหมาะกับผู้ใส่ใจสุขภาพ ให้แคลอรี่ต่ำ มีทั้ง  หลนปู และหลนกุ้ง ได้ลองลิ้มแล้วต้องบอกว่าแม่หญิงการะเกดไม่ต้องง้อยายปริกอีกต่อไป!! ไปลิ้มรสกันได้ที่        ร้านแม่ศรีเรือน ชั้น 1  เฟส 1 ณ ศูนย์การค้า เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา

 

4. ถัดมาคือเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูกุ้งแม่น้ำของแม่หญิงการะเกด แกงเขียวหวานกุ้งแม่น้ำ ประกอบด้วยส่วนผสม อาทิ พริกแกงโขลกสดใหม่นำมาผัดกับหัวกะทิจนโชยกลิ่น เติมน้ำกะทิ  มะเขือ พริกสด และใส่กุ้งแม่น้ำตัวโต เนื้อแน่น ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บจนกลมกล่อม ตบท้ายด้วยใบโหระพาหอมๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจนลืมอิ่ม จาก ร้านแม่ศรีเรือน เช่นกัน

 

 

5. หากพูดถึงอาหารไทยนั้นไซร้เป็นต้องมีสำรับ น้ำพริกกะปิปลาทูทอด กะปิชั้นเลิศโขลกกับพริกขี้หนู กระเทียม น้ำตาลปี๊บ ใส่น้ำปลาและบีบมะนาวตามลงไปจนได้ครบรส โรยหน้าด้วยมะเขือพวงและเนื้อปูสด กินกับผักแนมหลากชนิด และปลาทูแม่กลองทอดเนื้อแน่นหวานมัน รสชาติแบบไทยๆ ที่อร่อยลิ้นและมีคุณค่า จาก ร้านแม่ศรีเรือน

 

6. มาเริ่มต้นเมนูของหวานที่ ขนมไทยโบราณ ขนมสี่ถ้วย หรือ “ขนมไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตือ” ที่ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูแต่มีที่มาและความหมาย ได้แก่ ไข่กบ หมายถึงเม็ดแมงลัก, นกปล่อย หมายถึงลอดช่อง, บัวลอย หมายถึงข้าวตอก และอ้ายตือ หมายถึงข้าวเหนียวดำ ขนมทั้งสี่อย่างนี้ ใช้กระสายอย่างเดียวกัน คือ “น้ำกะทิ” และยังถือว่าเป็นขนมชนิดแรกของชนชาติไทย ซึ่งปัจจุบันหาทานค่อนข้างยาก ออเจ้าทั้งหลายจึงควรรีบไปลิ้มลอง จาก ร้านเฬอรส

 

 

7.  ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูของหวานโบราณ ขนมครก ซึ่งมีหลักฐานว่าขนมครกเป็นที่นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีการทำเตาขนมครกขายตั้งแต่ยุคนั้น ขนมครกแต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำ โม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับของทางร้าน และยังมีสูตรข้าวไรซ์เบอร์รี่ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบไทยๆ ในรสชาติหวานมันที่ลงตัวในสไตล์ของ ร้านแม่ศรีเรือน

 

 

 

 

8. และปิดท้ายด้วย ขนมเบื้อง ซึ่งในสมัยโบราณนั้น การละเลงขนมเบื้องให้สวยงามถือเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของกุลสตรี ดังที่ปรากฏในเรื่องขุนช้างขุนแผนที่นางศรีมาลาและนางสร้อยฟ้าละเลงขนมเบื้องเปรียบเทียบฝีมือกัน  แวะมาดูการละเลงขนมเบื้อง พร้อมชิมขนมเบื้องหวานกรอบอร่อย สูตรร้านแม่ศรีเรือนกัน