ลุ้น! ตรวจรับ 'อี-ทิคเก็ต' รอบ 3 ถ้าไม่ผ่านเล็งยกเลิกสัญญา 'ช ทวี'

ลุ้น! ตรวจรับ 'อี-ทิคเก็ต' รอบ 3 ถ้าไม่ผ่านเล็งยกเลิกสัญญา 'ช ทวี'

ขสมก. เผยระบบอี-ทิคเก็ตยังไม่ผ่านเกณฑ์ตรวจรับ โดยให้โอกาส "ช ทวี" แก้ตัวรอบ 3 ถ้ายังพบปัญหาเดิม เล็งยกเลิกสัญญา 1.6 พันล้านบาท หวั่นสร้างความเสียหายให้องค์กร

นางพนิดา ทองสุข รักษาการ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) บนรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) จำนวน 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ที่มีนิติบุคคลร่วมทำงาน โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา นิติบุคคลร่วมทำงาน โดย ช ทวี ได้ส่งมอบระบบอี-ทิคเก็ตบนรถเมล์ 100 คันแรกให้ตรวจสอบเป็นรอบที่ 2 แต่ ขสมก. ไม่ได้รับมอบ เพราะยังไม่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขการประมูล (TOR) ปัญหาที่พบคือ เครื่องอี-ทิคเก็ตยังอ่านค่าโดยสารไม่ถูกต้อง เช่น ผู้โดยสารลงรถเมล์ระหว่างทาง แต่กลับคิดค่าโดยสารเต็มจำนวน แต่เครื่องอี-ทิคเก็ต ถือว่ามีพัฒนาการดีขึ้นจากการส่งมอบครั้งแรกและใช้ได้ราว 80% แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเครื่องเก็บค่าโดยสารแบบหยอดเหรียญอัตโนมัติ (Cash box) ที่พบปัญหาแบบเดิมและยังไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนระบบคอมพิวเตอร์และเอกสารก็พบปัญหาเช่นกัน

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการตรวจรับฯ จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าหารือเพื่อสรุปปัญหาและอุปสรรค พร้อมขอให้เอกชนกลับไปแก้ไขข้อบกพร่อง โดยเอกชนยอมรับปัญหาและขอกลับไปปรับปรุงระบบ จากนั้นจะนัดส่งมอบระบบอี-ทิคเก็ตอีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่ถ้า ขสมก. ตรวจรับครั้งที่ 3 แล้วยังไม่ผ่าน ก็อาจพิจารณายกเลิกสัญญา โดยเอกชนจะอ้างไม่ได้ว่าความบกพร่องดังกล่าวเกิดจากปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาระบบไฟฟ้าบนรถเมล์หรือระบบตั๋วร่วม เพราะเอกชนต้องรู้สภาพรถเมล์ ขสมก. ตั้งแต่ก่อนเข้าประมูล

“เราจะให้โอกาสอีก 1 ครั้ง ถ้าตรวจรับครั้งที่ 3 แล้วยังพบปัญหาเดิม แสดงว่าคุณทำไม่ได้ คณะกรรมการตรวจรับก็ต้องหารือว่าจะเอายังไง แนวทางหนึ่งคืออาจหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อยกเลิกสัญญา เพราะปล่อยไปก็อาจเกิดความเสียหายกับองค์กร” นางพนิดากล่าว