'สมคิด' เรียกคีย์แมนเศรษฐกิจถกรับมือสงครามการค้า

'สมคิด' เรียกคีย์แมนเศรษฐกิจถกรับมือสงครามการค้า

“สมคิด” เรียกคีย์แมนเศรษฐกิจถกรับมือสงครามการค้า ส่งพาณิชย์ประเมินผลกระทบรายสินค้ารับมือสถานการณ์ยืดเยื้อ “สนธิรัตน์” ตั้งคณะทำงานศึกษาประโยชน์จากสงครามการค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 8.00 น. วันนี้ (9 เม.ย. 2561 ) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเข้ามาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการคณะกรรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นายสมคิด กล่าวว่าในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจเข้ามาเพื่อประเมินติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ การเงิน การคลัง โดยเฉพาะในเรื่องสงครามการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างจีนกับสหรัฐว่าจะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร และต้องมีแนวทางรับมืออย่างไร โดยได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ให้ไปศึกษาถึงผลดี ผลเสียต่อการค้าต่อประเทศไทย แม้ก่อนหน้าจนถึงตอนนี้ผลกระทบยังไม่ชัด แต่เพื่อความไม่ประมาทให้ไปดูว่าสินค้าสำคัญของไทยใดที่จะถูกกระทบในทางลบและจะหาทางออกไปทางใดได้บ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ส่งครามการค้าระหว่างสองประเทศจะยืดเยื้อเพียงใด

“ในเรื่องเศรษฐกิจของประเทศยังดี บางส่วนงานอาจไม่ได้ถูกกระทบโดยตรงเทรดวอร์ แต่อาจจะมีผลเกี่ยวเนื่องเช่นตลาดหลักทรัพย์ หรือ ธปท. ที่นักลงทุนอาจอาจตกใจจากข่าวและส่งต่อตลาดได้เหมือนที่หุ้นปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งได้กำชับกับ กลต.ว่าให้มีการชี้แจงต่อกรณีที่เป็นลักษณะแบบนี้เพราะไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเพียงแต่ต้องหาทางรับมือ”นายสมคิดกล่าว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ารองนายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานเศรษฐกิจมาหารือถึงการเกิดส่งครามการเนื่องจากเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจบางส่วนก็จะถูกสั่นคลอน ในเรื่องของสงครามการค้าประเทศไทยอยู่ระหว่างประเมินผลที่จะเกิดกับประเทศไทยรอบด้านเพราะว่ามีทั้งด้านลบและด้านบวกแน่นอนว่าด้านลบก็จะกระทบมาถึงเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต (Value chain) ซึ่งมีสินค้าหลายอย่างที่เราอยู่ห่วงโซ่การผลิตของสินค้าจีนที่ส่งไปยังสหรัฐ เช่น สินค้าคอมพิวเตอร์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ก็อาจจะได้รับผลกระทบ

ในด้านของผลดีเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นก็จะต้องหาส่วนที่จะเป็นประโยชน์จากสถานการณ์ซึ่งก็มีอยู่เพราะเมื่อสหรัฐและจีนกีดดันสินค้าของกันและกันก็ทำให้ประเทศอื่นๆมีช่องที่จะเข้าไปเพิ่มการส่งออกสินค้าไปยังสองประเทศ ซึ่งตนได้สั่งการให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ โดยประกอบไปด้วย 4 หน่วยงาน ในกระทรวงพาณิชย์ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งต้องศึกษาการขยายตลาด และวางยุทธศาสตร์ในการเจาะตลาดในกลุ่มสินค้าทั้งในไทยและสหรัฐ