Retail Market Monitor (4 เม.ย.61)
ภาพรวมของตลาดอ่อนกำลัง เก็งกำไรโดยเพิ่มความระมัดระวัง และเคร่งครัดตัดขาดทุน
ดาวโจนส์สหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากการดีดกลับของราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอเมซอนจากแรงซื้อกลับของนักลงทุนเพื่อรอเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรกของปีที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ พันธบัตร กลับมาชะลอตัวลงอีกครั้งจากการเทขายของกลุ่มนักลงทุนหลังตลาดหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัว
หุ้นไทยปรับลดลงแรง หลังประธานสนช.ลงนามส่งกฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งตลาดมองเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้การเลือกตั้งล่าช้ากว่าเดิม ทั้งนี้การปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยบวกกับการฟื้นตัวของดาวโจนส์สหรัฐฯหลังปรับฐานแรง ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น อย่างไรก็ตามภาพของตลาดที่เป็นบวกลดลง ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคที่แสดงให้เห็นถึงการอ่อนแรงของดัชนี ทำให้เรามองกรอบการฟื้นตัวของ SET Index ค่อนข้างจำกัดในช่วงสั้น การเก็งกำไรโดยรวมทำได้ในกลุ่มการแพทย์ ท่องเที่ยว ที่เข้าสู่ High season รวมถึงสายการบินที่ได้อานิสงค์จากราคาพลังงานที่ลดลง อย่างไรก็ตามเพิ่มความระมัดระวังต่อการลงทุนระยะสั้น รวมถึงเคร่งครัดต่อการกำหนดจุดตัดขาดทุน
โดยภาพรวมเรามีมุมมองตลาดจะมีบรรยากาศการซื้อขายที่ดีขึ้นหลังสงกรานต์ จากทิศทางกำไรบจ.รวมที่ยังเดินหน้าปรับขึ้น นักลงทุนควรติดตามผลการดำเนินงานของบจ.โดยเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61กลุ่มธนาคาร ที่จะ เริ่มประกาศ 17 เม.ย.นี้
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1760-1775 จุด กลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม สายการบิน)การลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ TVO, BH / เก็งกำไร THAI (ตัดขาดทุน 16.00), AAV (ตัดขาดทุน 5.50)
แนวรับ 1760 / แนวต้าน : 1775 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 2.23 หมื่นลบ. – สบน.เผยตัวเลขหนี้สาธารณคงค้าง ณ วันที่ 28 ก.พ.61 อยู่ที่ 6.46 ล้านลบ. คิดเป็น 41.34% ของจีดีพี โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.23 หมื่นลบ. โดยหลักหนี้สาธารณะมาจากเงินเบิกจ่ายเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศ
กกร.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP จากแรงหนุนของภาคส่งออก-ท่องเที่ยว – กกร.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 61 ขึ้นสู่ระดับ 4-4.5% (จากเดิม 3.8-4.5%) หลังพบสัญญาณสนับสนุนจากการส่งออก-ท่องเที่ยวที่ขยายตัวแข็งแกร่ง ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกปี 61 ขยายตัว 5-8% (จากเดิม 5-8%)
ร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. – ประธานสนช.เผยลงนามส่งร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ววานนี้
คสช.ยังไม่พิจารณามาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล-โทรคมนาคม – คสช.เผยยังไม่พิจารณามาตรการช่วยเหลือทีวีดีจิทัล-โทรคมนาคม โดยขอเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบ คาดได้ข้อสรุปก่อนจบเดือน เม.ย.นี้
ประเด็นติดตาม: 4 เม.ย. EU – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค., 6 เม.ย. US – ตัวเลขการจ้างงาน เดือน มี.ค., 11 เม.ย. TH – ธปท.รายงานนโยบายการเงิน
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)