ผกก.ห้วยขวาง ย้ำไม่หนักใจ "คดีลุงซาเล้ง" เร่งหาต้นเหตุลิ้มเลือดอุดตัน
จากกรณีนายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี หรือลุงซาเล้ง ถูก นายนราธร โสดติยัง หรือ จ๊อด อายุ 21 ปี ขับขี่ รถจยย. มาชนรถซาเล้งและทำร้ายลุงจรูญ จนหมดสติต้องนำตัวส่ง รพ.ราชวิถี เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. จากนั้นแพทย์ได้อนุญาติให้มาพักฟื้นที่บ้านได้เพียง 14 วัน จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยแพทย์ รพ.รามาธิบดี ได้ทำการผ่าชันสูตรพลิกศพ สรุปการเสียชีวิตของ ลุงจรูญ ว่าเกิดจากลิ้มเลือดที่ปลายขาไปอุดตันเส้นเลือดในปอด เป็นเหตุให้ปอดขาดเลือด จนเกิดภาวะปอดล้มเหล้ว ทำให้เสียชีวิตจากการหายใจล้มเหลว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เปิดเผยว่า ผลการผ่าชันสูตรพลิกศพของ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี ซึ่งมีการสรุปการเสียชีวิต ลุงจรูญ ว่าเกิดจากลิ้มเลือดที่ปลายขาไปอุดตันเส้นเลือดในปอด จนทำให้เกิดภาวะปอดล้มเหลวและเสียชีวิตนั้น เรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปตรวจสอบและค้นหาความจริงว่า การเกิดลิ้มเลือดนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร เนื่องจากลุงจรูณ ที่ไม่ได้ขยับร่างกายมาเป็นเวลานาน และการที่ไม่ได้ขยับร่างการเป็นเวลานานๆ ก็สังเกตุได้จากการที่มีแผลกดทับเกิดขึ้นนั้นเอง
นอกจากนี้ หลายคนสังเกตุว่า จะเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากความชราหรือไม่ เพราะก่อนที่คุณลุงจรูญจะเสียชีวิต ก็มีอาการไข้ขึ้นสูงนั้น ก็ต้องกลับไปดูอีกว่า การเสียชีวิตของ ลุงจรูญ คือการที่ลิ้มเลือดจากขาไปอุดตันเส้นเลือดในปอด ไม่ใช่เกิดจากภาวะการมีไข้สูง ส่วนผลชันสูตรอย่างละเอียดของรพ.รามาธิบดี ต้องรออีกประมาณ 1 เดือน
พ.ต.อ.กัมพล กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่ได้มีความหนักใจในการดำเนินคดีกับ นายนราธรธร หรือ จ๊อด ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด ตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่ นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ออกมาระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลุงจรูญ ในเบื้องต้นว่า เกิดจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต ซึ่งพบได้ในผู้สูงอายุทั่วไป ไม่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายที่ถูกนายนราธร หรือ (จ๊อด) เป็นผู้กระทำ และจะนำไปใช้เป็นข้อต่อสู้ทางคดีนั้น เรื่องนี้ตนเมองว่า เป็นเรื่องของผู้ต้องหาที่จะสู้ในทางคดีต่อไป