สั่งเบรกรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน77.9เมกะวัตต์ ชี้สำรองเพียงพอ5ปีข้างหน้า

สั่งเบรกรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน77.9เมกะวัตต์ ชี้สำรองเพียงพอ5ปีข้างหน้า

"ศิริ" สั่งเบรกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม หลังรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน 77.9 เมกะวัตต์ หวั่นกระทบค่าไฟ ชี้สำรองสูงเพียงพอต่อความต้องการใช้ใน 5 ปีข้างหน้า ระบุไม่บิดกั้นหากต้องการขายเข้าระบบในอัตราต่ำกว่าราคาขายส่งให้ กฟผ.

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน มีความคิดเห็นตรงกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่าควรจะหยุดรับซื้อไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะไว้จนกว่าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in Tariff สำหรับโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Quick Win Projects) จำนวน 12 โครงการ กำลังผลิต 77.9 เมกะวัตต์ จะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมและดำเนินการอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาถึงปี 2562-2564

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทย ไม่ได้ขาดแคลนไฟฟ้าและมีไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ใน 5 ปีหน้า จึงไม่จำเป็นต้องเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เป็นโครงการใหม่ๆ ทั้งในรูปแบบโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) และโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (VSPP) เพิ่มเติม แต่สามารถรับซื้อไฟฟ้าเพื่อพัฒนาในกรณีพิเศษได้ เช่น โครงการไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง ที่จะเริ่มรับซื้อ 300 เมกะวัตต์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ จากเชื้อเพลิงชีวมวลที่จะเป็นระบบไฟฟ้าแบบเอกเทศน์ ซึ่งขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ พีอีเอ อยู่ระหว่างหารือกำหนดรูปแบบดำเนินโครงการที่อาจเป็นได้ทั้งโรงไฟฟ้า SPP และ VSPP ที่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ ที่ชะลอออกไป แม้จะถูกมองได้ว่าเป็นการสูญเสียโอกาสจากการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หากลงทุนไปแล้วเป็นภาระต่อผู้บริโภคก็ไม่ควรสนับสนุน ขณะเดียวกันหากผู้ลงทุนแล้วหาตลาดเอง ขายไฟเอง เช่น ขายไฟในกลุ่มอุตสาหกรรม หรือในนิคมอุตสาหกรรม ก็ควรสนับสนุนให้มีการแข่งขันและหากผลิตไฟได้ในราคาเท่ากับหรือต่ำกว่าขายส่งให้กฟผ.กระทรวงพลังงานก็ไม่ปิดกั้นและพร้อมรับซื้อเข้าระบบ แต่มีจำกัดปริมาณหรือไม่นั้น ยังต้องรอดูความชัดเจนจากพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี)ฉบับใหม่ที่จะแล้วเสร็จเบื้องต้นในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.นี้