เกษตรตั้งอนุฯจังหวัดเข็น 'ไทยนิยม'

เกษตรตั้งอนุฯจังหวัดเข็น 'ไทยนิยม'

"กฤษฏา" ตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน คลุม 77 จังหวัด งบ 2.4 หมื่นล้านเน้นเกษตรกรมีส่วนร่วม โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง การมอบนโยบายการดำเนินงานแก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่กรมพัฒนาที่ดิน ว่า ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนร่วมกับภาคเอกชน ที่กระทรวงเกษตรฯได้รับจัดสรรงบประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท ดำเนินการใน 20 โครงการทั้ง พืช สัตว์ประมง และโครงสร้างพื้นฐาน

เน้นย้ำเรื่องความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนของโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงและครอบคลุมมากที่สุด โดยได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ กำกับดูแลและตรวจติดตามโครงการทั้ง 3 ระยะ คือ การตรวจแนะนำชี้แจงข้อมูลทั้ง 20 โครงการให้กับประชาชนได้รับรู้ อย่างทั่วถึง

การตรวจติดตามโครงการแต่ละขั้นตอนเป็นไปตามแผนหรือไม่ และตรวจสอบความโปร่งใส หรือตรวจจับผิด หากพบความผิดปกติหรือส่อเจตนาที่จะมีการทุจริตก็ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดได้

“เกษตรและสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่ ต้องมีข้อมูลเรื่องตลาดนำการผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาของเกษตรกร ที่ขาดความรู้ เทคโนโลยีการผลิต ขาดความรู้ด้านการตลาด และ ขาดแคลนแหล่งเงินทุน"

รวมทั้งต้องประสาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)สำนักงานพาณิชย์ สำนักงานอุตสาหกรรม ภาคเอกชน บริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด หรือร้านค้าต่างๆ เพื่อติดต่อกับเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง

นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า 3 โครงการที่ต้องดำเนินตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนคือ คือ1.การเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้เกษตรกรวางแผนการใช้ที่ดิน และเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับโครงการรองรับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และให้เกษตรกร 9,600ราย ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรที่ดินอย่างเหมาะสมและยั่งยืน

2.โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,097 แห่ง ใน 45 จังหวัด วงเงิน 1 แสนบาทต่อแห่ง และ 3.โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวเพื่อผลิตสินค้าเกษตรอื่นที่เหมาะสม เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตพืชในพื้นที่ไม่เหมาะสม เป้าหมาย 6,832 ไร่