กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชี้แก้พรบ.ต่างด้าวไม่กระทบรายเดิม

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมเปิดรับฟังความเห็นการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยจะรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนก่อนที่จะเสนอนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมฯ ยืนยันว่าถ้าจะแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จะไม่กระทบต่อนักลงทุนรายเดิม รวมทั้งต้องสร้างความสมดุลระหว่างการทำธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติกับการปกป้องคุ้มครองธุรกิจของคนไทย

สำหรับความกังวลใจของนักลงทุนชาวต่างชาติเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งข้อดีข้อเสียต่างๆ และยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการศึกษา และการทบทวนกฎหมายจะพิจารณา 4 ประเด็น คือ 1.ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ 2.ลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจของคนต่างชาติ 3.อำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน 4.ไม่ทำให้กระทบผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเน้นการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจเป็นหลัก ทำให้ง่ายต่อการเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ลดปัญหาอุปสรรค ลดขั้นตอนและระยะเวลาในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุน และช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจประเทศที่จะได้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 กำหนดให้มีการทบทวนกฎหมายที่อยู่ในการกำกับดูแล และบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งบัญชีแนบท้ายจะทบทวนเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

นางกุลณี กล่าวว่า จะเดินหน้าตรวจสอบตัวแทนอำพราง (นอมินี) อย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อสร้างธรรมาภิบาลแก่ภาคธุรกิจ และหวังให้ภาคธุรกิจเป็นธุรกิจสีขาวที่สร้างความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ภาคธุรกิจไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนไทยและต่างประเทศ และรองรับการเปิดการค้าเสรีที่อัตราการแข่งขันอย่างรุนแรง

นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อสร้างความชัดเจนในการตรวจสอบนอมินี ถือเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้กฎหมายบังคับใช้ได้ดีขึ้น

ที่ผ่านมามีการเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มาหลายครั้ง มีการเสนอให้แก้ไขคำนิยามการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จากกฎหมายที่กำหนดที่สัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 50 % และมีข้อเสนอจะเพิ่มการตรวจสอบอำนาจควบคุมกิจการเข้าไป ซึ่งถ้าจะเสนอแก้ไขประเด็นนี้อีกก็ต้องมากำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดว่าจะตรวจสอบอำนาจการบริหารอย่างไร