“อภิสิทธิ์” ยันสมาชิกพรรคอยู่ปกติ ยังไม่มีใครขอออก อุบไม่ปิดทางหนุน “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ ชี้ต้องดูแนวคิดก่อน
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอดีตส.ส.คนไหนเลยที่เข้ามาบอกว่าไม่อยากทำงานต่อกับพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศประเทศ และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.ปชป. ซึ่งออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ ที่แม้ว่านายสุเทพบอกไม่เอาด้วย แต่นายธานีก็จะเดินหน้าต่อ ก็ถือเป็นอีกพรรคหนึ่งที่ต้องมาแข่งกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกติ ซึ่งการเลือกตั้งทุกครั้งก็จะมีคนออกอยู่บ้าง 1-2 คนบ้าง ไม่เยอะ ซึ่งตอนนี้เราพยายามดุงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมพรรคด้วย ที่มีความคิดที่หลากหลาย
เมื่อถามว่า จะจับมือกับพรรคใหม่นายธานีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากว่าอะไรที่มันเป็นจุดยืนร่วมกัน เช่น สมมุติว่าเขาสนับสนุนงานปฏิรูป ซึ่งเราสนับสนุนอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ชี้ว่าแนวทางบางอย่างมันก็ไปด้วยกัน แต่ว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษที่บอกว่าจะต้องปฏิบัติในแง่ของการแข่งขัน ส่วนกรณีที่นายธานีบอกว่าขอเป็นที่ 2 ในทุกพื้นที่ที่ลงแข่งขัน เพื่อเก็บตกคะแนนส.ส.ปาตี้ลิสต์นั้น ตนไม่ทราบ ถือเป็นกลยุทธ์แต่ละพรรค เแต่ประชาธิปัตย์มุ่งหน้าให้ได้เสียงมากที่สุด ให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด เพราะระบบใหม่คะแนนเสียงก็นำมาแปรเป็นจำนวน ส.ส.ปาตี้ลิสต์อยู่แล้ว เราก็เดินหน้าว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะมีข้อเสนอให้กับผู้เลือกตั้ง ที่เขาเห็นว่าเราพึ่งได้ แล้วสนับสนุนเรา สำหรับตนตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราแข่งขันกับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะลงสนามการเมือง โลกกับประเทศเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายเมื่อ 7 ปีที่แล้ว หรือแม้แต่เทียบกับเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ก็เช่นกัน ดังนั้นพรรคที่จะหาคำตอบให้สังคมได้ก็ต้องเข้าใจความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ มีข้อเสนอที่มาตอบโจทย์ตรงนี้ได้หมด ทั้งเรื่องสังคมสูงวัย เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องคอร์รัปชั่น ที่ยังไม่สามารถจัดการได้
เมื่อถามอีกว่าอนาคตพรรคประชาธิปตัย์ จะนำเสนออะไรเป็นนโยบาย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก่อนที่จะถึงนโยบายเราต้องพูดเรื่องหลักคิดอุดมการณ์ ตนเห็นว่าสังคมไทยมี 3 ทางเลือก คือ 1.รัฐราชการอนุรักษ์นิยม ที่คสช.ทำอยู่ 2.ประชานิยม กลับไปหาทุจริตคอร์รัปชั่น 3.เสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นทางเลือกของพรรคประชาธิปัตย์ เรายืนยันว่าจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จากนั้นเสรีนิยมประชาธิปไตยก็ต้องมาแปลงเป็นเรื่องๆว่านโยบายจะมีอะไรบ้าง ส่วนพรรคใหม่อื่นจะเสนอเป็นทางเลือกใดก็ว่ากันไป เราต้องมองตรงนี้ก่อน เพราะประเทศจะมาแข่งขันกันเป็นเรื่องๆไม่ได้แล้ว ใครจะให้ค่าแรงสูงกว่ากันมันไม่ใช่แล้ว ต้องมาพูดว่าตกลงเราจะเดินแบบ คสช. หรือเราจะเดินแบบประชานิยม
ต่อข้อคำถามที่ว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ ยังเสนอตตัวเป็นพรรคทางเลือกอยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นทางเลือกที่มีเป้าหมายเป็นทางหลัก แต่ตนให้เกียรติทางเลือกอื่น จะมาบอกว่าเราเป็นหลักคนเดียวไม่ได้ ใครจะเป็นหลักไม่ได้อยู่ที่พรรค อยู่ที่คนเลือกตั้ง ถ้าคนเลือกตั้งเลือกคนมาเยอะคุณก็เป็นหลัก คนเลือกตั้งเลือกคนมาน้อยทางเลือกไหนก็ยังไม่รู้เลย ผมเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตยไง ผมจึงบอกว่าประชาชนต้องมีทางเลือก ส่วนคิดจะจับมือกับพรรคไหน หรือกลุ่มใดหรือไม่นั้น ต้องเรียนว่าแนวคิดพรรคเราต้องเป็นหลักก่อน ต้องถามกลับว่าใครจะจับมือกับประชาธิปัตย์บ้าง แต่ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องดูว่าใครยอมรับแนวทางความคิดของเรา เช่น เราจะทำเรื่องกระจายอำนาจคุณเอาหรือไม่ ไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่น คุณเอาด้วยหรือไม่
เมื่อถามต่อไปว่า ในกรณีที่พรรคขนาดกลางรวมตัวกัน เสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ขึ้นเป็นนายกฯอีกสมัย พรรคประชาธิปัตย์ จะร่วมด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯคนนอกหรือคนใน สมมุติว่าเขารวบรวมเสียงได้ ถ้าถามว่าเราจะไปร่วมหรือไม่ ก็ต้องดูก่อนว่าแนวทางของเขาตรงกับแนวทางที่ตนหาเสียงหรือไม่ ปรับเข้ากันได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ไป จะไปทำไม เราก็ต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรง กับคนที่สนับสนุนเรา เมื่อถามว่าแต่ไม่ปิดทางใช่หรือไม่ นายอภสิทธฺ์กล่าวว่า คือถ้าแนวคิดตรงมันก็ร่วมได้ แต่ตอนนี้มีอะไรที่ไม่ตรงกันเยอะพอสมควร ก็ชัดเจนแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอากระจายอำนาจ แนวคิดเศรษฐกิจก็ไม่ได้แก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างในเรื่องทุนใหญ่ ไม่ได้แก้โครงสร้างการดูแลภาคการเกษตร