5เดือนแรกรัฐบาลเก็บรายได้เกินเป้า4.5%

5เดือนแรกรัฐบาลเก็บรายได้เกินเป้า4.5%

โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561ว่า สามารถจัดเก็บได้ 9.08 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.94 หมื่นล้านบาท หรือ 4.5%

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561ว่า สามารถจัดเก็บได้ 9.08 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.94 หมื่นล้านบาท หรือ 4.5%

รายได้รัฐบาลที่สูงกว่าประมาณการ มีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 1.48 หมื่นล้านบาท และ 1.48 หมื่นล้านบาท หรือ 30%และ 18.8% ตามลำดับ ส่วนการจัดเก็บภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีรถยนต์ และรายได้อื่นของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5.94 พันล้านบาท , 3.75 พันล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาท หรือ 283% ,8.9% และ 394.6%ตามลำดับ

ทั้งนี้ กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ 6.35 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2.59 พันล้านบาท หรือ 0.4% ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6.65 พันล้านบาทและ1.99 พันล้านบาท คิดเป็น 2.0%และ 1.6% อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5.9 พันล้านบาท หรือ 283% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 325%

"ในเดือนก.พ.การจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 6.4 พันล้านบาท หรือ 512.1% และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 624.5% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชำระภาษีเงินได้ปิโตรเลียมย้อนหลัง และผลประกอบการของบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ภาพรวมการจัดเก็บภาษีดังกล่าวในรอบ 5 เดือนดีขึ้น"

ด้านการจัดเก็บรายได้กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ 2.2 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 274 ล้านบาท หรือ 0.1% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว1.0% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ 3.75 พันล้านบาท หรือ 8.9% เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีสูงกว่าที่ประมาณการไว้

ส่วนรายได้อื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1.9 พันล้านบาท หรือ 394.6%สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 371.2% เนื่องจาก การนำส่งเงินค่าใช้จ่ายจัดเก็บภาษีท้องถิ่นคืนเป็นรายได้แผ่นดิน และภาษียาสูบ จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1.87 พันล้านบาท หรือ 7.3% อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันฯ และภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4.65 พันล้านบาท และ 2.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 5.4% และ 7.4% ตามลำดับ

ส่วนการจัดเก็บรายได้กรมศุลกากร 4.6 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 922 ล้านบาท หรือ 2.0%ผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าประมาณการจำนวน 1.3 พันล้านบาท หรือ 2.8% เนื่องจากการนำเข้าสินค้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้การจัดเก็บอากรขาเข้าไม่ขยายตัวตามที่ประมาณการไว้

สำหรับรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้รวม 6.45 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.48 หมื่นล้านบาท หรือ 30% รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 5 อันดับแรก ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กองทุนรวมวายุภักษ์ บมจ. ท่าอากาศยานไทย และ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

โฆษกกระทรวงการคลังยังกล่าวถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณด้วยว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้นจำนวน 8.94 แสนล้านบาท ขณะที่ มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น1.37 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 2.14 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.89 แสนล้านบาท

"ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอต่อการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงขึ้นและสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"