ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 23เซนต์ ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 23 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 65.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับประมาณการอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ สู่ระดับ 99.3 ล้านบาร์เรล/วัน จาก 97.8 ล้านบาร์เรลในปีที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันของกลุ่ม ประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยอยู่ที่ 2.871 พันล้านบาร์เรล และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีราว 53 ล้านบาร์เรล

ไออีเอ คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับ 97.9 ล้านบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าสหรัฐจะมีผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับมากกว่า 11 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน

ขณะที่การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลงในเดือนก.พ.สู่ระดับ 32.1 ล้านบาร์เรล/วัน นำโดยเวเนซุเอลาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไออีเอได้ปรับเพิ่มความต้องการน้ำมันโอเปกสู่ระดับ 32.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ จากตัวเลขประมาณการเมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 32.3 ล้านบาร์เรล

/วัน

นอกจากนี้ ไออีเอ ยังระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม จะสร้างความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในเดือนหน้า

ทั้งนี้ อีไอเอ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในเดือนเม.ย.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 131,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 6.954 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์