ดอลล์แข็งกดดันราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลง

ดอลล์แข็งกดดันราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลง

ต่ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างอังกฤษและรัสเซีย รวมทั้งแนวโน้มการเกิดสงครามการค้าะหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 0.69% ปิดตลาดที่ 1,316.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น โดยเมื่อเวลา 23.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.34% สู่ระดับ 90.01

ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์ แต่โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้จีนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างไร โดยจะเป็นการซื้อสินค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วเหลืองหรือเครื่องบิน หรือไม่ หรือจีนต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายภาคอุตสาหกรรม, ลดเงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ หรือลดกำลังการผลิตเหล็กและอลูมิเนียม

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะขับไล่นักการทูตของสหราชอาณาจักรในไม่ช้า เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 23 คนเมื่อวานนี้

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย หลังรัสเซียปฏิเสธที่จะชี้แจงกรณีมีการใช้สารพิษทำลายระบบประสาทโจมตีอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาเมื่อต้นเดือนนี้

นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรจะระงับการติดต่อในระดับสูงกับทางรัสเซีย และจะยกเลิกคำเชิญนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ซีเอ็มอี กรุ๊ป ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือเฟดวอทช์ วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.