แมง 4 หู 5 ตาในตำนาน สู่มาสคอตเจียงฮายเกมส์

แมง 4 หู 5 ตาในตำนาน สู่มาสคอตเจียงฮายเกมส์

อ้วน ป้อม ขนปุยๆ มี 4 หู 5 ตา ดูเป็นตัวการ์ตูนอารมณ์มนุษย์ต่างดาวน่ารัก แท้จริงแล้วเจ้าแมงสี่หู ห้าตานี้เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงรายที่เชื่อกันว่ากินถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และถ่ายมูลออกมาเป็นทองคำ

ปอย- พจวรรณ พันธ์จินดา เจ้าของลายเส้น “คำสุข” ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นมาสคอตในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 “เจียงฮายเกมส์” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย. 2561กล่าวถึงสัตว์ประหลาดในตำนานที่นำมาเป็นต้นแบบความคิดในการสร้างสรรค์ที่ชนะใจกรรมการด้วยความน่ารักสดใสและสื่อความหมายถึงสัตว์ประหลาดในตำนานที่ชาวเชียงรายรู้จักกันเป็นอย่างดี

“เริ่มจากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จัดประชุมศิลปินในเชียงรายอยากให้ศิลปะเข้าไปมีส่วนในการออกแบบมาสคอต โลโก้ กีฬาเจียงฮายเกมส์ มีศิลปินหลายคนช่วยกันออกแบบ เป็นช้างบ้าง เป็นตัวอื่นๆบ้าง

ปอย คิดเล่นๆว่าเราเคยเห็นที่ญี่ปุ่นนำเอาเทพเจ้ามาเป็นมาสคอตได้ ที่เชียงใหม่นำเอาตัวฟาน (เก้งเผือก) มาเป็นมาสคอตในการรณรงค์ให้เชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก ฟานก็เป็นสัตว์เป็นตำนานโบราณเชียงใหม่เหมือนกัน

ปอยมาคิดว่าเชียงรายมีอะไร เราเคยได้ยินเรื่องแมงสี่หูห้าตา เป็นเหมือนสัตว์ปุยๆตัวหนึ่ง มีตำนานของครูบาที่อยู่บนดอย มีรูปปั้นอยู่ด้วยเป็นสล่าที่ออกแบบไว้ เด็กๆเราได้ยินเรื่องแมงสี่หูห้าตา เพื่อนฝรั่งก็สนใจเรื่องนี้ เคยคุยกันทำให้นึกถึงแมงสี่หูห้าตาขึ้นมาเลยออกแบบส่งไป อาจารย์เฉลิมชัยถูกใจแล้วแนะนำให้ทำออกมาน่ารักเป็นตัวกลมๆป้อมๆ”

แมงสี่หูห้าตาในตำนานกล่าวไว้ว่ามีลักษณะคล้ายหมี รูปร่างอ้วนเตี้ย มีขนยาวๆสีดำ มีสี่หู ตาสีเขียวห้าตา ความพิเศษคือกินถ่านไฟเป็นอาหาร อุจจาระออกมาเป็นทองคำ ในตำนานครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา จังหวัดลำพูน เชื่อมโยงจำนวนสี่หูและห้าตา เข้ากับหลักคำสอนทางพุทธศาสนาแสดงถึงหลักธรรมพรหมวิหาร 4 และศีล 5

เรื่องราวของแมงสี่หูห้าตานี้ เล่ากันเป็นนิทานที่คนโบราณมักเล่าให้ลูกหลานฟังกันสืบมา เริ่มกันตั้งแต่กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีครอบครัวยากจน 3 พ่อแม่ลูก พระเอกของเรื่องชื่อทุกคตะ แม่ตายตั้งแต่เด็กเป็นขอทานยากจนต้องไปขอสิ่งของจากคนต่างๆจนชาวบ้านเอือมระอา

        พอโตขึ้นมาพ่อไปฝากไว้กับผู้ใหญ่บ้านให้เลี้ยงควาย แล้วสั่งเสียไว้ว่าเมื่อพ่อตายแล้วให้เอาไปฝังจนกว่าหัวกระโหลกของพ่อจะหลุดแล้วให้เอาไปบูชาที่บ้าน อายุครบ 17 ปีเมื่อไหร่ ให้ลากหัวกระโหลกพ่อไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทางขึ้นดอยเขาควาย ถ้าหัวกระโหลกพ่อไปติดอยู่ตรงไหนให้เอาบ่วงแร้วไปดักจับสัตว์ตรงนั้น

ทุกคตะทำตามพ่อบอกทุกอย่างจนจับแมงสีดำมีสี่หูห้าตาเอาไว้ได้ พยายามเอาข้าวให้กินก็ไม่ยอม จนหน้าหนาวก่อกองไฟมีถ่านกระเด็นออกมา แมงสี่หูห้าตาก็กัดกินเลยรู้ว่ากินถ่านไฟเป็นอาหาร พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมาจึงได้รู้ว่ามันอุจจาระออกมาเป็นทองคำ เลยเอาถ่านไฟให้กินทุกวันแล้วเอาทองไปฝังหลังบ้าน

          จนวันหนึ่งพระราชามีประกาศไปว่าถ้าใครอยากแต่งงานกับพระธิดาที่สวยมากให้ทำรางรินน้ำฝนทองคำจากบ้านมาถึงห้องพระธิดา ทุกคตะภาวนาให้เทวดามาช่วยในที่สุดก็มีช่างมาช่วงสร้างรางรินน้ำฝนจนสำเร็จ จากยากจนจึงกลายมาเป็นพระราชบุตรเขย

พระราชาถามว่าได้ทองมาจากไหน ทุกคตะบอกว่าได้มาจากแมงสี่หูห้าตา พระราชาเกิดโลภอยากได้แมงตัวนี้เป็นของตัวเอง เจ้าสี่หูห้าตาจึงวิ่งหนีไปแอบในถ้ำ พระราชาตามเข้าไปแล้วติดอยู่ในถ้ำที่ถล่มลงมาพอดี

          พอรู้ตัวว่าใกล้ตายพระราชาเลยตะโกนผ่านรูเล็กๆของถ้ำให้เสนา อำมาตย์ที่อยู่ข้างนอก ไปตามมเหสีทั้ง 7 องค์มาให้หน่อย พอทุกคนมาถึงก็บอกให้เปลื้องผ้าถุงออกเพราะอยากจะชมอวัยวะเพศผ่านรูเล็กๆของถ้ำก่อนตาย

       ปรากฏว่าไม่มีใครยอมมีเพียงภรรยาคนที่ 7 ยอมทำตามคำขอ ทันใดนั้นถ้ำก็หัวเราะแล้วถล่มลงมาพระราชาจึงออกมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ชายรักภรรยาน้อยมากกว่าภรรยาหลวง

สุดท้ายพระราชาสำนึกผิดที่เกิดความโลภ จึงยกบัลลังก์ให้ลูกเขยครองเมือง ส่วนแมงสี่หูห้าตาก็หนีไป แต่ทุกคตะก็ทำถ้ำเอาไว้ให้แมงสี่หูห้าตาที่บนดอยเขาควายแก้ว เรื่องจบลงประการฉะนี้

       “เป็นเรื่องเล่าที่คนโบราณเล่าให้ฟังว่าแมงสี่หูห้าตาอยู่บนนั้น เราก็มาคิดว่าถ้ามันอยู่ร่วมสมัยกับเราจะเป็นยังไง เดินเหินกลางถนน มาเล่นกีฬาจะเป็นอย่างไร

แมงสี่หูห้าตาตัวนี้ ได้ชื่อว่า “คำสุข” เป็นชื่อของย่ามีความหมายว่าทองคำ อาจารย์เฉลิมชัยบอกว่า ศิลปินเชียงรายจะใช้แมงสี่หูห้าตาโปรโมทเชียงรายเมืองศิลปะไปด้วย เป็นอีกหลายๆเวอร์ชั่น โดยศิลปินท่านอื่นๆจะนำเสนอแมงสี่หูห้าตาในแบบของตัวเองในโอกาสต่อๆไป” ปอยบอกกับเรา

สำหรับ “คำสุข” เป็นตัวการ์ตูนปอยวาดขึ้นแล้วแชร์ลงในเพจ poypoy ซึ่งนอกจากจะได้เห็นลายเส้นและท่วงท่าอันน่ารักแล้ว คำสุขยังมีผองเพื่อนที่วิ่งเล่นอยู่ในสวนมากมาย ถ้าลองคลิกเข้าไปดูผลงานในเพจนั้น เราจะพบกับตัวตนของปอยผ่านเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยความฝัน (แม้ว่าวันนี้เธอเป็นคุณแม่ของลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่ถึงเดือน)

ปอยไม่ได้เรียนศิลปะมาโดยตรง แต่ก็มีประสบการณ์ด้านศิลปะที่มีสีสัน ทั้งๆที่เรียนจบทางด้านสื่อสารมวลชวนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่กลับมีความใกล้ชิดกับคณะวิจิตรศิลป์ไม่น้อย

“มีอาจารย์ในคณะวิจิตรศิลป์เปิดโรงเรียนพิเศษขึ้นมา ชื่อโรงเรียนศิลปะตัว ฮ เปิดรับนักเรียนที่ไม่ได้เรียนศิลปะโดยตรงมีนักเรียนอยู่ 5 คน เทรนให้เป็นศิลปิน มีให้เราไปเรียนกับเด็กวิจิตรศิลป์ด้วยเวลาที่มีศิลปินมาเลคเชอร์ให้ฟัง หลักสูตร 2 ปี

พอเรียนไปเรื่อยๆนักเรียนค่อยๆหายไปปอยเป็นคนสุดท้าย จบแล้วได้แสดงงานที่อังกฤษแกลลอรีที่เชียงราย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกไม่น้อย”

ด้วยความรักในศิลปะ หลังเรียนจบปอยทำงานเป็นภัณฑารักษ์ ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อขัวศิลปะเปิดได้ 3 เดือน เธอจึงกลับมาบ้านที่เชียงรายแล้วทำงานเป็นภัณฑารักษ์ให้กับขัวศิลปะ

“ตอนนี้ออกมาเลี้ยงลูก และวาดการ์ตูนไปก่อน ยังไม่มีเวลาวาดรูปลงเฟรมขนาดใหญ่” คุณแม่มือใหม่บอกเราด้วยรอยยิ้ม

เราโบกมือลาปอยในโลกความจริง แล้วดำดิ่งเข้าไปในโลกโซเชียลเพื่อสัมผัสกับตัวตนของนักวาดการ์ตูนในเฟซบุ๊คเพจ  poypoy แล้วเราก็พบกับข้อความที่เธอเล่าไว้ประกอบภาพวาด poypoy and friends in my garden

ในวันอันน่าเบื่อ ที่ทุกอย่างเวียนซ้ำ สิ่งที่จะพาเราเคลื่อนไปนั้น อาจจะอยู่ในหนังสือสักเล่ม บทเพลงใหม่ๆ

ยามเย็นที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสี นกบางชนิดที่เราเพิ่งเคยเห็น ต้นไม้ ดอกไม้แปลกตา ผู้คน

เรื่องราวจากอีกซีกโลกหนึ่ง ที่ส่งมา ถึงในมุมเล็กๆในเมืองที่ฉันอยู่

หากสวนที่ฉันเป็นผู้ครอบครองนั้นมีอยู่จริง พวกเขาและฉันจะร่วมบอกเล่าเรื่องราวอีกครั้ง

วันใหม่ๆ จะนับหนึ่งได้เรื่อยๆ และเปี่ยมด้วยความหวัง

เพราะปอยมีความสุขเราจึงได้รู้จักกับ “คำสุข” ตัวการ์ตูนสี่หูห้าตาที่ต่อแต่นี้เป็นมาสคอตอย่างเป็นทางการของเจียงฮายเกมส์ ระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย. 2561 โปรดติดตามชม