เอไอเอสทุ่ม700ล.หวังขึ้นผู้นำโมบายเพย์เมนท์

เอไอเอสทุ่ม700ล.หวังขึ้นผู้นำโมบายเพย์เมนท์

ร่วมทุนกลุ่มบีทีเอส-ไลน์ ปั้นแพลตฟอร์มอี-มันนี่

เอไอเอสอัดงบ 787 ล้านบาท ส่ง “เอ็มเปย์” บริษัทลูก เข้าร่วมทุนแรบบิท ไลน์ เพย์ หวังพัฒนาแพลตฟอร์มอี-มันนี่ การชำระเงินผ่านมือถือทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ เชื่อจุดแข็งของตัวเองและพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้นำในเซ็กเตอร์ของตัวเอง ช่วยดันให้ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดอีเพย์เมนท์ประเทศไทยภายใน 3 ปี เดินหน้าสร้างสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง 

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอไอเอสถือหุ้นอยู่ 99.99% ได้เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด (อาร์แอลพี) ในสัดส่วน 33.33% ผ่านการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทดังกล่าว จำนวน 1,999,998 หุ้น ราคาหุ้นละ 393.75 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 787 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นขยายธุรกิจให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ และการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล 

ดังนั้น ความร่วมมือในรูปแบบของการเข้ามาร่วมลงทุนในอาร์แอลพีผ่านทางเอ็มเปย์ ซึ่งมีความแข็งแกร่งด้านการมีตัวแทนเติมเงินมากกว่า 200,000 จุดทั่วประเทศ และการมีช่องทางชำระค่าใช้จ่าย และใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่างๆรวมกว่า 200 รายการด้วย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในผู้บริการในขณะนี้

“ความร่วมมือในครั้งนี้ของ 3 พันธมิตร ที่เป็นผู้นำในตลาด จะทำให้โมบายเพย์เมนต์ของไทยแข็งแกร่งขึ้นมาก โดยอาร์แอลพีจะก้าวสู่แพลตฟอร์มโมบายเพย์เมนท์อันดับ 1 ในไทย ภายใน 3 ปี” ซึ่งเอไอเอสและพาร์ทเนอร์ต้องการสร้างเทคโนโลยีเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ" นายสมชัย กล่าว

สำหรับความร่วมมือแรกที่จะเกิดขึ้นระหว่างอาร์แอลพี และเอไอเอส คือ การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น มาย เอไอเอส  มาใช้งานบนแรบบิท ไลน์ เพย์ ทำให้มีการย้ายฐานลูกค้าเอ็มเปย์มาเป็นฐานลูกค้าของแรบบิท ไลน์ เพย์ ที่ยังสามารถเข้าถึงช่องทางชำระค่าบริการต่างๆ ของเอ็มเปย์กว่า 200 รายการ ได้เหมือนเดิม โดยปัจจุบันลูกค้าเอ็มเปย์มีอยู่จำนวน 2 ล้านราย มีผู้ใช้งานจริง 4-5 แสนราย และยังมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มบีทูบีอีก 20,000 ราย สำหรับอาร์แอลพีปัจจุบันมีผู้เข้ามาลงทะเบียนใช้งานราว 3 ล้านบัญชี มีการใช้งานสูงสุดต่อวันอยู่ที่ 1.5 ล้านครั้ง โดยตั้งเป้าหมายว่าในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ผู้ใช้งานอาร์แอลพีจะสามารถใช้ชำระค่าบริการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้

นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการบัตรแรบบิท และ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย กล่าวว่า บัตรแรบบิทคือผู้ให้บริการการชำระเงินในรูปแบบ ไมโคร เพย์เมนท์ อันดับ 1 ในกรุงเทพด้วยสมาชิกบัตรบีทีเอสแรบบิทกว่า 8.5 ล้านคน มีช่องทางรับชำระมากกว่า 5,200 จุด ทำให้เชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นไลน์ ประเทศไทย ที่มีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 42 ล้านราย และเอไอเอสที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งการร่ววมือกันจะทำให้เราเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของการให้บริการทางการเงินผ่านระบบออนไลน์อย่างแท้จริง 

ด้านนายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ ไลน์ ประเทศไทย เสริมว่า การก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด สามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้ ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ใช้เสมือนพกเงินสดไปทุกที่ ยังช่วยลดปัญหาอีกด้วย เนื่องจาก 87% ของคนไทยไม่มีบัตรเครดิตและยังเข้าถึงทางการเงินไม่สะดวก ทำให้การชำระเงินผ่านมือถืออย่างอาร์แอลพี สามารถช่วยแก้ปัญหาในข้อนี้ได้ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้มาเป็นแบบไม่ใช้เงินสด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การร่วมทุนดังกล่าวเกิดจากผู้ถือหุ้นเดิมของอาร์แอลพี ได้แก่ บริษัท แรบบิท ซิสเต็ม จำกัด (อาร์พีเอส) บริษัท ไลน์ เพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ได้สละสิทธิการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของอาร์แอลพี และให้เอ็มเปย์ เข้าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกิดสัดส่วนการถือหุ้นของเป็นจำนวน 1,999,996 หุ้น จากที่เอ็มเปย์ ได้รับโอนหุ้นจำนวน 2 หุ้น จากผู้ถือหุ้นเดิมบางราย ในราคาเสนอขายหุ้นละ 393.75 บาทดังกล่าว