'เซ็กซ์ทัวร์' แผลเก่า..สะท้อนไทยแลนด์4.0?

ไทยแลนด์แดนเซ็กซ์ทัวร์? เป็นคำถามแทงใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. สืบเนื่องวานนี้ (26ก.พ.) จากตำรวจบุกโรงแรมหรูกลางเมืองพัทยาจับแก๊งชาวรัสเซีย ตั้งกลุ่มเปิดอบรมหลักสูตรทางเพศอ้างจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแจกใบประกาศหลังอบรม ขณะตรวจค้นพบผู้เข้าอบรม ร่วม 50 ราย

ยิ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศแกมเบียร์ และรวมไปถึงรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ พูดถึงประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์

ร้อนถึง "นายกฯตู่" ต้องชี้แจงว่า ต้องยอมรับว่ามีคำกล่าวเช่นนี้มานาน เราต้องยอมรับในความจริงที่ว่า มันยังมีคนที่หากินในอาชีพเหล่านี้อยู่ ดังนั้นจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาอาชีพและรายได้ให้กับคนเหล่านี้ ที่สำคัญคนเหล่านี้เขายินดีที่จะเปลี่ยนแปลงอาชีพที่ไม่ถูกต้องของเขาหรือไม่ ยอมรับว่าคนหากินในอาชีพที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้มีมาก แต่ส่วนดีก็มีเยอะเช่นกัน ทั้งที่พัทยาและชลบุรี

“ขอร้องว่า อย่าพูดอะไรให้ประเทศมันเสียหายมากนัก พอใครจะว่าอะไรมา เราก็ต้องทำตามและใช้กฎหมายของเราให้ได้ ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น ต้องช่วยกันสร้างพัทยาและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพที่ไม่มีเรื่องเหล่านี้ ก็ต้องดูว่ามีใครเป็นส่วนประกอบบ้าง ทั้งผู้ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ ความยากจน เรื่องนี้ไม่มีใครอยากจะทำ ถ้าไม่ยากจนจริงๆ แต่สังคมวันนี้เป็นสังคมที่นิยมใช้ของที่มีราคาแพง บางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันสร้างการรับรู้ว่าอย่าไปทำอาชีพนี้เลย มันไม่ดีไม่งาม..” นายกฯ กล่าว

ขณะเดียวกัน ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายฮามัท บาห์ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวแกมเบียเตือนนักท่องเที่ยวชาติตะวันตกว่า แกมเบียไม่ใช่จุดหมายปลายทางด้านเซ็กส์ทัวร์ หากต้องการเซ็กส์ทัวร์ให้ไปประเทศไทยว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือทักท้วงถึงรัฐมนตรีคนดังกล่าวแล้ว พร้อมมองว่าเป็นข้อผิดพลาดทางการทูตเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้นำประเทศคนใดที่พูดในลักษณะนี้

"ผมอยากให้จบ ไม่อยากให้ยืดเยื้อและหยุดขยายความจนเป็นประเด็นกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ส่วนกรณีที่ถูกพูดถึงนั้นเป็นหน้าที่ของประเทศไทยที่จะตรวจสอบกันเองภายในว่ามีเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่" รมว.ต่างประเทศ กล่าว

ขณะที่ วีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงเรื่องดังกล่าวไปแล้ว เพราะผู้นำประเทศไม่ควรจะออกมาพูดในลักษณะนี้ และเรื่องดังกล่าวคงต้องให้กระทรวงต่างประเทศออกมาชี้แจง

"ประเทศไทยได้ปรับเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมทำเรื่องคุณธรรมจริยธรรมคิดว่าทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นมาก เวลามีประเด็นที่ไม่เหมาะสมคนไทยก็ออกมาแสดงความคิดเห็น ภาพแบบนั้นเป็นภาพที่เคยมีอยู่จริง แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวของประเทศไทยเปลี่ยนไปเป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว.."

อย่าลืมว่า เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ตีข่าว (10 ส.ค. 2560) ที่ปรึกษาวิจัยอาวุโสจากสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปราบอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยปัญหาการค้ามนุษย์ฉบับใหม่ที่กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวกำลังทวีความรุนแรงขึ้น และอุปสงค์การซื้อทัวร์เพื่อเล่นเซ็กซ์กับเด็กผ่านเว็บแคมก็ พุ่งแซงหน้าอุปทานไปมาก โดยพบว่าธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อมีเซ็กซ์กับเด็กผ่านเว็บแคม (child sex webcam) เริ่มย้ายศูนย์กลางจากฟิลิปปินส์มายังไทย (ข้อมูล - manager https://goo.gl/dqQhgH )

นี่เอง อาจเป็นเป็นปัจจัยเดิมๆ ข้อมูลเดิมที่ตอกย้ำว่า รัฐบาลยังแก้ปัญหาได้ไม่ดีพอหรือโดดเด่นพอหรือไม่ จึงถูกประเทศอื่นหยิบเอาไปพูดในทางเสียหาย ดังนั้น การทำงานหนักเพื่อแก้ภาพลักษณ์ให้กลายเป็นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ คือโจทย์ใหญ่ที่ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวฯ ต้องคิดหนักร่วมด้วย!?