ครูปรีชาย้ำ '4จริง' ลั่นไม่หนียินดีหากโดนหมายจับ

ครูปรีชาย้ำ '4จริง' ลั่นไม่หนียินดีหากโดนหมายจับ

รู้สึกชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น "ครูปรีชา" ย้ำ4จริง เราของจริง ตกจริง ซื้อจริง หายจริง จึงไม่กลัวอะไร ลั่นไม่หนียินดีหากโดนหมายจับ

เมื่อเวลา 07.40 น. ที่บ้านพักเลขที่ 143/22 ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเดินทางไปสอนหนังสือว่า ตอนนี้ครูมีกำลังใจดีมาก เพราะทำไมถึงดีรู้ไหม เพราะของจริงจะกลัวอะไร นี่เป็นคอนเซ็ปต์ประจำตัวของครู เราของจริง ตกจริง ซื้อจริง หายจริง จะไปกลัวอะไรครับ ถึงผลมันจะออกเป็นอย่างไร เราก็ต้องต่อสู้กันต่อไป ถามว่าจะนับถอยหลังรอหรือไม่ ตอบว่ารู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตครูเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เป็นคนที่อยู่ในจอทีวีหมดเลย เพราะว่าสื่อมารอที่หน้าบ้านทุกวันเลยอบอุ่น โดยเฉพาะน้องป๋อม นักข่าวช่อง 7 มาทุกวัน ใครไม่มา น้องป๋อม มารอก่อนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครูหวั่นวิตกหรือไม่ เรื่องพยานกลับคำให้การ ครูปรีชาย้อนถามสื่อว่า รู้ได้ไงว่ากลับคำให้การครับ ไปเห็นสำนวนมาหรือครับ หรือใครเห็นสำนวนยกมือขึ้น จากนั้นครูปรีชาได้อธิบายว่า ตำรวจจะเห็นสำนวนอย่างเดียวนะครับ สื่อเห็นสำนวนไม่ได้นะครับ

ถามต่อว่า กังวลหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงที่มีบางส่วนยอมรับว่าเป็นเสียงครู ครูปรีชาตอบตัดบทว่า ไม่กังวลหรอกครับๆ เพราะคลิปเสียงบางส่วนก็โดนสอบไปแล้ว แต่บางส่วนที่มีออกมาเยอะๆ ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงทำงานกันต่อไป

ถามว่าครูจะมีการฟ้องร้องเรื่องคลิปเสียงหรือไม่ เพราะคลิปเสียงบางช่วงมีการสนทนาค่อนข้างชัดเจนว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของใคร ครูปรีชาตอบว่า ตอนนี้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งคลิปไปตรวจที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ ถ้าผลการพิสูจน์หลักฐานออกมาเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันอีกที

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องการข่มขู่ของทางฝั่งทนายครูได้มีการปรึกษากับทางทนายฝั่งครูหรือยัง ครูปรีชาตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ปรึกษากับทนาย แต่ก็ได้เตรียมการบ้านของตัวเองเอาไว้แล้ว เป็นครูต้องให้การบ้านกับนักเรียน ตอนนี้ก็ให้การบ้านฝั่งโน้นไว้บ้างแล้วว่าสิ่งต่างๆที่มันเกิดขึ้น ทำให้สังคมวุ่นวายกันไปหมดเลย สังคมมองคนในแง่ไม่ดี แต่สังคมยังไม่ผิด ครูและทุกคนก็ยังไม่ผิด เพราะขณะนี้เขามองเหรียญอยู่เพียงด้านเดียว ดังนั้นขอให้รอสักครู่ และหลังจากวันที่ 28 ก.พ.นี้ค่อยว่ากัน ซึ่งหลักฐานของครูมีทุกอย่างพร้อม ส่วนหลักฐานเรื่องคลิปเสียงหรือกล้องวงจรปิด ตรงนี้ยังไม่ขอบอก บอกได้แต่เพียงว่าเราได้เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้วทุกอย่าง เกี่ยวกับเรื่องของคดี

ถามว่าหากครูมีหมายเรียกหรือหมายจับจะไม่คิดหนีไปไหนใช่หรือไม่ ครูตอบพร้อมกับถอนหายใจว่า จะหนีไปไหนหละครับ ถ้ามีหมายเรียกหมายจับเราก็ยินดี เพราะว่าเราเป็นพลเมืองดี เราต้องให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งก็ขอให้สื่อมวลชน อย่าลงข่าวไปในทางมอมเมาประชาชน ลงข่าวในแต่ละวันขอให้ลงไปตามความถูกต้องก่อนเพราะเดี๋ยวมันจะเกิดความไม่เข้าใจกัน

ถามว่าทางผู้บริหารโรงเรียนได้มีการแจ้งเตือนอะไรมาถึงครูหรือไม่ เพราะว่าคดีใกล้งวดเข้ามาทุกขณะ ครูปรีชาตอบว่า ผู้บริหารโรงเรียนเขามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของครู แต่เรื่องการทำงานเราก็ทำงานไปตามหน้าที่ เพราะเรารับราชการ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ครูกังวลหรือไม่หากมีหมายจับออกมาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากทางเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปพบ จะส่งผลกระทบกับนักเรียนเพราะใกล้จะสอบแล้ว ครูปรีชาย้อนถามสื่อมวลชนว่า ก่อนที่จะถามอยากให้สื่อไปเรียนรู้เรื่องของกฎหมายก่อนว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะกฎของการออกหมายกับกฎของข้าราชการนั้นเขามีขั้นตอนของการทำงานอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ครูปรีชาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องคดีแล้วเสร็จ ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังเกี่ยวกับราคาปาล์มที่ปลูกเอาไว้ในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา ประมาณกว่า 100 ไร่ ว่าเมื่อก่อนราคาปาล์มดี แต่เดี๋ยวนี้ราคาเริ่มตกลงแล้ว ส่วนคนงานที่มีอยู่ก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามแทรกไปว่า คดีแพ่งที่ครูฟ้องนั้นฟ้องไปเท่าไหร่ ซึ่งครูปรีชาตอบว่าฟ้องไปตามจำนวน คือ 30 ล้านบาท